Category ข่าวบันเทิง

ทำเอาแฟนคลับ ละครต่างตกใจแอบเสียดาย หลังจากนางเอกสาว นาว ทิสานาฏ ศรศึก ประกาศว่า กำลังจะเดินทางไปเรียนต่อเมืองนอก จนหลาย ๆ คนมีความคิดว่านางเอกสาว จะทิ้งแวดวงไปเลยหรือเปล่า เจอ นาว มางานแจกปฏิทินปี 2023 พร้อมเหล่านักแสดงช่อง 7 ที่เซ็นทรัลลาดพร้าว เลยถามข่าวเรื่องที่ เจ้าตัวเตรียมตัวไปเรียนต่อว่า

“มันเป็นช่วงเวลาที่หนูว่าง ๆ ก็เลยคิดว่า อยากจะทดลองหาประสบการณ์ใหม่ ๆ เลยตัดสินใจที่จะไปศึกษาต่อ คร่าว ๆ คงจะไปเดือน มี.ค. เรื่องวันรอทางโน้นตอบกลับ ไปเทกคอร์สหาประสบการณ์ ยังระบุมิได้ว่านานแค่ไหน”

เรื่องงานเคลียร์ละครเรื่องสร้อยนาคีรึยัง?

“เหลืออีกประมาณ 5 คิวก็หมดแล้วค่ะ”

ตัดสินใจยากมั้ย?

“นานเหมือนกันค่ะ ต้นเหตุที่ตัดสินใจ ไปเพราะเหมือนว่างมาก หนูถ่ายเรื่อง สร้อยนาคีเรื่องเดียว อีกคิวมันก็ว่าง ๆ นานหลายเดือนมาก เราก็ไม่ต้องการจะปล่อยเวลา ให้มันไร้ประโยชน์ เลยตกลงว่า ลองไปหาอะไร ทำที่มันเป็นประโยชน์กับตัวเอง ดีกว่าเลยจะไปเรียนภาษาค่ะ”

ไปครั้งนี้เหมือนการไปใช้ชีวิตคนเดียว เคยใช้ชีวิตแบบนี้มั้ย?

“ไม่เคยเลยค่ะ เราทำงานตั้งแต่เรียนแล้ว ไม่เคยมีโอกาส ลองไปอยู่กับตนเองเลยซักครั้ง ครั้งนี้อาจเป็นการตัดสินใจว่า ไปอยู่กับตนเอง ดูว่าเราชอบอะไร มันเป็นการตัดสินใจ จะวันเกิดหนูพอดี ว่าเราอยากทำอะไร”

แพลนการใช้ชีวิตอย่างไรบ้าง?

“อยากใช้ชีวิตปกติ จริง ๆ เรียนภาษาบ้านเราก็ได้ แต่เราไม่ต้องการมีคำว่า อุ๊ย นาว-ทิสานาฏ เราอยากมีฟีลแบบว่า ไม่มีใครรู้จักเรา ได้ใช้ชีวิตของเรา ไปทำงานที่ร้านอาหาร คือต้องการใช้ชีวิตอย่างนั้นเลย ต้องการลองดูจริง ๆ ต้องการไปแบบธรรมดาเลย”

นิว-วงศกร เป็นคนแนะนำว่าให้ไปประเทศนี้?

“ตอนแรกหนูคิดไว้ว่า จะไปสองประเทศ คืออังกฤษ หรือไม่ก็ออสเตรเลีย แต่ว่าที่มิได้ไปอังกฤษเพราะว่ามันไกล แล้วก็ไม่ได้รู้จักใครเลย ที่อยากไปเพราะว่าอังกฤษเป็นประเทศที่ชอบ แต่ว่าออสเตรเลียเป็นประเทศ ที่ค่อนจะปลอดภัย ถ้าหนูไปคนเดียว คงจะปลอดภัยมากกว่า เนื่องจากเป็นประเทศแห่งการเรียนการสอน และก็คนไทย ก็ไปเรียนที่นั่นเยอะ”

เราก็เป็นสาวสวย หากมีหนุ่มฝรั่งมาจีบล่ะ?

“ประเด็นคือหนูจะไปหากุ๊กกิ๊ก ที่นู่นแต่ว่าก็มิได้ไง เพราะว่ามีคนรู้จัก ประเดี๋ยวเค้าก็จะมาบอกพี่นิว (หัวเราะ) พูดเล่นค่ะ”

เห็นว่านิวจะไปส่งด้วย?

“ใช่ค่ะ พี่นิวจะไปส่งแล้วเค้าบอกว่า จะไปอยู่เป็นเพื่อนหนึ่งเดือน คือเค้าเป็นห่วง แต่สิ่งที่นาวเป็นห่วงในขณะนี้ ก็คือเรื่องของภาษา เนื่องจากเราไม่ได้เก่งขนาด ที่จะสื่อสารกับเค้าได้คล่อง แล้วเราไปคนเดียว ก็ไม่รู้ว่าต้องคุยกับใคร แต่มันก็ต้องคุย เราต้องการไปเริ่มที่นั่นเลย”

คิดนานมั้ยเพราะการไปเรียนก็เท่ากับเรา ทิ้งเงินทิ้งงานตรงนี้ไป?

“มันเป็นการได้อย่างเสียอย่าง ถ้าหนูไม่ได้ตัดสินใจไป หนูอาจจะมาเสียดายทีหลังก็ได้ แต่ว่าถ้าหากไปเรียนที่นู่น แล้วหนูกลับมา หนูก็ยังชอบการทำงาน ยังไม่ได้ลาวงการ เดี๋ยวก็กลับมา ยังทำงานอยู่ ถ้าเกิดพี่ยังต้องการ หนูยินดีอยู่แล้ว”

ล่าสุดก่อนปีใหม่รถโดนชนท้าย?

“มันเจ็บใจตรงที่ไม่ถูกหวย มันเกิดช่วงวันคริสต์มาสเลยนะ ตรงนั้นมันเป็นตรงยูเทิร์น คิดว่าในเวลาที่หนูเลี้ยว คันข้างหลังเค้ามิได้มองรถยนต์หนู อาจมองคันที่สวนมาเลยชนรถหนู”

วันเกิดนิว เห็นเราลงคลิปตีระนาดอวยพรวันเกิด?

“คือระนาด หนูเคยเรียนตั้งแต่ สมัยตอนเรียนมัธยม และก็มีรุ่นพี่ยืมไปนานแล้วเป็นปี จู่ ๆ ก็นึกอยากที่จะตี ก็ให้เค้าเอากลับมาให้หน่อย วันเกิดพี่นิวพอดี ก็เลยไปแกะโน้ตตีระนาด เป็นเพลงแฮปปี้เบิร์ธเดย์ แบบตีระนาด พี่นิวก็ชอบ เพราะเค้าชอบ อะไรแบบแปลก ๆ อยู่แล้ว (หัวเราะ) ของขวัญก็มีให้ค่ะ”

ประวัติ “นาว ทิสานาฏ” สาวเก่งผู้หลงรักนาฏศิลป์ไทย จากรั้ววิทยาลัยนาฏศิลป

นาว ทิสานาฏนอกจากจะเป็นนักแสดงมากฝีมือ มีผลงานน่าติดตามแล้ว เธอคนนี้ยังเรียกว่า เป็นสาวที่หลงรัก แล้วก็ชื่นชอบนาฏศิลป์ไทย จนกระทั่งศึกษาด้านนาฏศิลป์ โดยเฉพาะเลยด้วย

มาทำความรู้จักกับ ประวัติ นาว ทิสานาฏ สาวเก่งนักแสดง รางวัลคุณภาพ ดีกรีนักศึกษาวิทยาลัยนาฏศิลป คนนี้ให้มากขึ้นกันซักหน่อย

นาว มีชื่อจริงว่า ทิสานาฏ ศรศึก
เกิดวันที่ 5 พ.ค. พ.ศ. 2536
ภูมิลำเนาเป็นคนกรุงเทพมหานคร
ความสูง 165 เซนติเมตร
จบการศึกษาจากระดับอุดมศึกษา วิทยาลัยนาฏศิลป
IG : now_tisanart

นาว ทิสานาฏเรียกว่า เป็นสาวที่สนใจทางด้านนาฏศิลป์ไทยมาตั้งแต่เด็ก ๆ โดยเธอ ก็ได้นำความชื่นชอบส่วนตัว มาต่อยอดทางทางการศึกษา ด้วยการเข้าศึกษาทางด้านนาฏศิลป์ ที่วิทยาลัยนาฏศิลปกรุงเทพ

เธอเข้าสู่วงการบันเทิง โดยการถูกชักชวนจากผู้จัดการดารา ในขณะเธออยู่กับคุณแม่ ก็เลยทำให้เธอ เริ่มจากงานถ่ายแบบ และก็ถ่ายมิวสิกวิดีโอ และก็มีงานแสดงภาพยนตร์เป็นครั้งแรก และจากนั้นเธอก็ได้เซ็นสัญญา เป็นนักแสดงในสังกัดช่อง 7 ในปี 2554 และส่งผลงานละคร ออกมาเรื่อย ๆ จนกระทั่งปัจจุบันนี้

นอกเหนือจากนี้อีกทั้งความสามารถส่วนตัว และการแสดงของเธอ ยังส่งผลให้เธอมีรางวัล การันตีผลงานมากมาย ไม่ว่าจะเป็น รางวัลพระราชทาน เนื่องในวันเยาวชนแห่งชาติ, เณศไอยรา ตลอดจนรางวัล เอเชียน ทีวี อวอร์ดส เลยด้วย

ภายหลังเจอมรสุมใหญ่ กระทั่งจะต้องลางานจากงานพิธีกร ทุกรายการอย่างสาว “กาละแมร์ พัชรศรี เบญจมาศ” ยอมทิ้งงานในแวดวงบันเทิง หลายปี จนกระทั่งปัจจุบันเจ้าตัวกลับมา หวนคืนแวดวงพิธีกร พร้อมเล่าทุกประเด็น เคลียร์ทุกข่าวเม้าท์ เผยหลายเรื่อง ที่คนเข้าใจผิด ไม่ได้เป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ที่พบมรสุม

เผยลาออกแล้ว และกลับมาทำงานพิธีกร ที่รักอีกรอบ รับมีเสียน้ำตา หลังมีกระแสข่าว พร้อมเผย ถึงเรื่องความรัก กับหนุ่มฝรั่งเศสเศรษฐี หมื่นล้านรวยติดอันดับโลก ทุกประเด็นในรายการ คุยแซ่บ SHOW ออกอากาศทางช่องวัน 31 ที่มีพีเค ปิยะวัฒน์ แล้วก็เป็กกี้ ศรีธัญญา ดำเนินรายการ

กาละแมร์ พัชรศรี กลับมาทวงบัลลังก์พิธีกร?

กาละแมร์ : มันมิได้ยิ่งใหญ่ขนาดนั้น เราได้กลับมาทำงาน ที่เรารักมากที่สุด เป็นงานพิธีกร ในช่วงเวลานี้มีแล้วรายการใหม่ มันอยู่ในสายเลือด ไปไหนคนก็ถามคิดถึงเมื่อไหร่ จะมีรายการอีก พอมีคนทักขึ้น คิดถึงการสัมภาษณ์คน ที่ทราบข่าวมีเรื่องมีราว เราก็จะต้องไปจัดการ ให้เรียบร้อย เราต้องไปรับผิดชอบของเรา พอถึงเวลามีคนมาชักชวน เป็นรายการเคลียร์กับแมร์

กลับมาตื่นเต้นมั้ย?

กาละแมร์ : ตื่นเต้นมันตื่นเต้นอยู่แล้ว มันอยู่ในสายเลือด เราตื่นเต้นรอที่จะทำ ทำให้เต็มที่ เราจะกลัวที่เราไม่ได้ ทำสิ่งที่เรารักมากกว่า ถ้าเกิดเราทิ้งโอกาสไปแล้วเสียใจ วันหลังคือสิ่งที่เราจะกลัวมากกว่า อย่าไปคิดกังวลไว้ก่อน เราทำปัจจุบันให้ดีไว้ก่อน

อดีตลาออกจากทุกรายการที่ทำ?

กาละแมร์ : ขณะนั้นมันมีสิ่งที่เรา จะต้องแก้ไขปัญหา เราเกรงใจรายการไม่ต้องการให้ได้รับผลกระทบ เราไปจัดการหน้าที่ ความรับผิดชอบของเราก่อนดีกว่า เลยขอออกมาจากรายการที่ทำตอนนั้น โทรบอกทุกคน ที่ทำรายการด้วยกัน รวมถึงผู้จัดด้วย ทุกคนก็เมตตาเรามาก มันไม่ต้องขนาดนั้นหรือเปล่า แต่ว่าเรามีสิ่งที่จะต้องทำจริง ๆ ขออนุญาต ซึ้งน้ำใจในความเมตตาของทุกคนเสมอ ไว้ได้โอกาสจะมารับใช้ใหม่

ความรู้สึก?

กาละแมร์ : มันก็หวิวนะ เราคิดถึงคนที่เราทำงานด้วย มันคือความผูกพัน คิดถึงบรรยากาศ แต่ว่าตอนนั้นมีสิ่งที่เราจะต้องทำ มันมีต้องรับผิดชอบอยู่ ที่บริษัทก็มีลูกน้อง เราทอดทิ้งไม่ได้ เราต้องเดินหน้า ทำสิ่งตรงนั้นให้ดีที่สุด เนื่องจากว่ามีอีกหลายคน ที่เค้าก็เฝ้ามองเราอยู่

สัจจะค้ำคอ หมายความว่าอะไร?

กาละแมร์ : แมร์เป็นคนถือสาในคำพูดตัวเอง อันไหนไม่ถูกเรายอมรับผิด อันไหนไม่ใช่เราต้องการแก้ไข สิ่งที่พูดไปแล้ว เราจะทำอันนั้น

หลายคนมีความคิดว่าเป็นเจ้าของพาวเวอร์ชอต?

กาละแมร์ : เป็นหุ้น 30% ไม่ว่าจะ มีหุ้นเท่าไร เราทำเต็มกำลัง เราเป็นคนที่มีภาระหน้าที่ ความรับผิดชอบมาแล้ว หนึ่งในบริษัทเรา เราเริ่มก่อตั้งด้วยกัน ก็ทำเต็มที่

แต่พอมีปัญหารับ 100% กับหุ้น 30%?

กาละแมร์ : อย่างที่บอกมันเป็นหน้าเรา อะไรที่เรารับผิดชอบได้ก็รับผิดชอบ เราทำผลิตภัณฑ์ มีเรื่องมีราวมีปัญหามา เราเป็นหนึ่งในผู้ร่วมทำ เรามีหน้าที่สำหรับการรับผิดชอบเรื่องนี้ เราคิดอย่างเดียวว่าจะ แก้ไขยังไง ให้มันดีขึ้น

ยังเกี่ยวข้องกับพาวเวอร์ชอตมั้ย?

กาละแมร์ : ช่วงนี้ไม่แล้วค่ะ ลาออกจากทุกตำแหน่ง ไม่มีความข้องเกี่ยวแล้ว แมร์ได้คิดทบทวนแล้ว ตอนทำงานมีความเห็นตรงกัน แต่พอทำไปสักพัก ทัศนคติไม่ตรงกัน หรือเป้าหมายไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป เพื่อความสบายใจ ในทุกฝ่ายเราออกมาดีกว่า แต่ว่าเรายังเป็นเพื่อนกันได้

ผู้ที่ลงข่าวผิด ๆ ต้องการบอกอะไร?

กาละแมร์ : อยากรู้อะไรถามได้เลย หากบิดเบี้ยวเยอะมาก คนไปเสพข่าวแล้ว เข้าใจผิดมันบาป จะให้ไปตามแก้หมด ก็คงไม่ไหว ดูตามข้อเท็จจริง อย่าไปตัดต่อเยอะ อย่าไปคิดเองมโนเอง ถามแมร์ได้เลย แมร์ยินดีให้สัมภาษณ์ ต้องการให้เสนอจริง ๆ

ชีวิตในขณะนี้อะไรที่ทำให้มีความสุข?

กาละแมร์ : แฮปปี้กับปัจจุบันนี้ ตอนนี้การที่ส้มติดต่อเรามา มันเป็นเรื่องมหัศจรรย์มากเลย ไม่ทราบเพราะอะไร อย่างไรเหมือนกัน

ทำไมถึงติดต่อหากาละแมร์?

ส้ม : ไม่ทราบเหมือนกัน จริง ๆ วันนี้ก็มีแขกอีกท่านนึง เปิดไอจีเลื่อนดูกาละแมร์ขึ้นมา มิได้คุยไรเลย แล้วก็ไม่รู้ว่ามีข่าวด้วยนะ ใจก็ต้องการจะโทรหาเค้า มันถึงเวลาแล้วมั้ง
กาละแมร์ : วันนี้มาพบกันดีใจมาก เอาจริง ๆ อยากมาออกรายการส้มนานแล้ว ส้มไลน์มา แมร์ก็งง
ส้ม : ต้องการจะบอกว่าขอให้แมร์มีชีวิตใหม่ที่ดี
กาละแมร์ : ขอบคุณมาก ดีใจที่วันนี้ปีใหม่ ชีวิตใหม่ งานใหม่ สิ่งอะไรใหม่ ๆ ในชีวิตดี ๆ แล้วเราก็ได้มาตรงนี้ ได้มาบอกทุกคนผ่านรายการส้ม

มีหนุ่มฝรั่งเศสรวยมากเข้ามา?

กาละแมร์ : คุณลุงฝรั่งเศสไปพบตอนเล่นสกี ที่ฝรั่งเศส มีครูสกีคนเดียวกัน ครูไปคุยอย่างไรไม่รู้ คุณลุงเค้าเลยต้องการเจอ เลยนัดกินข้าวกันกลางลานสกี ไม่ค่อยได้คุย มีคุยบ้าง คุณลุงคุยฝรั่งเศส นี่ภาษาอังกฤษกระท่อนกระแท่น คุณลุงได้แต่คิสซ้ายคิสขวา เนื่องจากเป็นชาวฝรั่งเศส มีแลกช่องทาง ส่งรูป ไม่มั่นใจว่าจีบมั้ย

ต้องการให้เค้าจีบมั้ย (เศรษฐีหมื่นล้านรวยติดอันดับโลก)?

กาละแมร์ : น่าคิด คือเราต้องดูแลเค้าขนาดไหน นี่คือสิ่งที่คิด เค้า 70 กว่า แก่กว่าพ่อชั้นนะ มันดูสื่อสารกันยากด้วย ไม่ได้สานต่อกันหรอกค่ะ เค้าอาจเห็นคนเอเชีย ในลานสกีดูแปลก ๆ ดี เวลานี้ไม่ได้คุย

ในตอนนี้โสด?

กาละแมร์ : มันก็มีคนดี ๆ เข้ามา กัลยาณมิตร เพื่อนฝูง คุยกันไปให้ชื่นอกชื่นใจ ถ้าหากเราไม่ชอบ เราจะไม่คุยกับเค้า ไม่เสียเวลาพูดคุย

ผู้ชายกล้าจีบมั้ย เราดูเข้มแข็งและสตรอง?

กาละแมร์ : ถ้าหากคนดี ๆ ก็กล้าเข้ามาแหละ ข้างในจอดูแข็งกร้าว ตัวจริงก็ซอฟต์ ๆ หากมีคนมองทะลุตรงนั้น มีเข้ามาคุยบ้างก็มี

สเปก?

กาละแมร์ : อยู่ด้วยแล้วสบายใจ จิตใจดี อยู่ด้วยแล้วมีความสุข เอาพื้นฐานจิตใจ

ชีวิตนี้ต้องแต่งงาน?

กาละแมร์ : ถ้าหากมันถึงเวลา เพราะเหตุว่าชีวิตนี้ไม่ตั้งใจจะมีลูก เพราะเหตุว่า 46 แล้ว เพราะฉะนั้นวันนึง ถ้าเกิดจะมีการแต่งงาน แต่งเมื่อไหร่ก็ได้ ถ้าได้มีเจอคนคนนั้นที่ใช่ เวลาเรารักใครเราไม่ได้รักที่อายุ หรือฐานะ แต่เรารักเพราะเค้าเป็นเค้า ภายนอกมันไม่เคย จะได้อย่างที่เราต้องการ มิได้สเปกแล้ว

ต้องการบอกอะไรคนที่คอยซัพพอร์ตให้กำลังใจ?

กาละแมร์ : พอเรามีชีวิตใหม่ เราได้มาเป็นเรา เราได้เห็นเพื่อนฝูง ที่รอการกลับมาของเรา ทั้งเงียบ ๆ และต่อหน้าเพื่อน คือเพื่อนไม่เคยหายไปไหน ดีใจที่เรามีชีวิตใหม่ เราได้กลับมาอีกครั้ง ความเป็นเพื่อนเค้ารู้จักตัวตนเรา หัวใจพองโต แฟน ๆ มาคอมเมนต์เยอะมาก ดีใจเห็นเรากลับมาทำรายการ รอดูเรา เป็นกำลังใจที่ดี เราทำสิ่งใหม่ ๆ ต่อไป.

เก้า สุภัสสรา เปิดเผยสถานะกับ พีช พชร หลังจากถูกจับตาหนักมาก มีการคอมเมนต์ กันบ่อยในไอจี ภายหลังถูกจับตาว่า มีอะไรในกอไผ่หรือไม่ สำหรับคู่ของนางเอก เก้าสุภัสสรา กับพระเอก พีช พชร ที่ช่วงหลังหลายคน ต่างจับจ้องว่าต่างเคยลุ้นกันว่า ทั้งสองนั้นจะลุ้นขึ้นหรือเปล่า เพราะในพักหลังนั้นสองคน มีคอมเมนต์กัน ตลอด ๆ จนกระทั่งกองเชียร์ แอบจิ้น แอบเชียร์ ให้เป็นแฟนกันจริง ๆ

ล่าสุด เก้า สุภัสสรา ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ในเรื่องดังกล่าว

โดยบอกว่าเป็นเพื่อนกัน รวมทั้งรู้จักกันมานานแล้ว รับรองไม่มีอะไรกอไผ่

“ถามว่าคุยกัยพี่พีชบ่อยไหม ไม่บ่อย คุยปกติ ส่วนคอมเมนต์ คุยกันหวาน ก็เป็นการแซวกัน ใจก็ไม่ได้หวิวอะไร เขาคงชินแล้ว ที่เราแซวกันอย่างงี้ ไม่กลัวว่าหากหยอดกัน ไป ๆมา ๆ แล้วผีผลัก เพราะว่ามันเป็นเพียงพี่น้อง พอมีข่าวก็ไม่ได้คุยกัน มีแค่รีทวิตไอจีกัน ว่ายังไงหรือจะ เป็นเที่ยวกันสักแมตซ์”

“รู้จัก กับพี่พีช มาประมาน 10 ปีแล้ว ก็ต้องขอบคุณคนเชียร์ ส่วนที่เคย ออกรายการ แล้วเราพูดว่าพี่พีชคือสเปค วันนั้นไปออกรายการ แล้วเขาถามว่าใคร คือสเปคเรา ในเวลานั้นคิดนานมาก แล้วเรา ก็ตอบพี่พีช เพราะเหตุว่าสมัยนั้นเขาฮอต เราก็เลยเลือกเขา ก็สารภาพว่าเขาเป็นสเปค แต่ว่าไม่รู้สึกว่าจะต้องเป็นแฟน”

“ทางด้าน สถานะหัวใจ ก็โสดสนิท แฮปปี้มากในตอนนี้ เสมือนได้กลับใช้ชีวิตตอนเด็ก ๆ ถ้าเกิดคนเข้ามา ก็ค่อนข้างยากนิดหนึ่ง เพราะเหตุว่าเรามิได้เปิดโอกาส”

เก้า สุภัสสราเดือดมาก สวมทูพีซอวดหุ่นสวย พาหนุ่ม ๆ ใจระทวยเพียบ

เรียกว่าทำเอาหนุ่ม ๆ หายใจ หายคอ ไม่ทั่วท้องกันเลยทีเดียว เมื่อล่าสุดนางเอกสาว เก้าสุภัสสรา ธนชาต ออกมาปล่อย ซีนเซ็กซี่ขยี้ใจ อีกเซ็ตระหว่าง ออกทริปเที่ยวพัทยาสุดชิล

โดยเจ้าตัวสวม ทูพีซสีฟ้า สดใส อวดหุ่นแซ่บเวอร์ ที่มาพร้อม ผิวขาวออร่า โพสท่าสวย ๆสับ ๆ งานนี้เดือดมาก เนื่องจากชาวเน็ตกระหน่ำกดไลก์ แล้วก็ส่งอิโมจิรูปไฟ มาให้อย่างท่วมท้น ทำเอาร้อนฉ่ากันเลยทีเดียว

เก้าสุภัสสราทุ่มหมดหน้าตัก ให้ รากแก้ว พิสูจน์ฝีมือ

เป็นกระแส ที่ถูกพูดถึงอยู่เสมอ กับละคร เรื่องล่าสุด ของสาว “เก้า-สุภัสสรา ธนชาต” ในบท โรยทองทราย หรือ ทราย จากเรื่อง “รากแก้ว” โปรเจ็กต์ชิ้นแรกของ ช่อง 3 รวมทั้ง CHANG2561 ที่เจ้าตัวได้ร่วมแสดงกับรุ่นพี่ “คริส หอวัง” เรียกว่าเข้าฉากด้วยกันทีไร ก็ตีบทแตกกระจุย โดยเฉพาะฉากดราม่า ที่คนไหนดูก็ต้องอวยยศให้สาวเก้า ซึ่งหลังออกอากาศไปได้ไม่นาน ก็สร้างความปังถล่มทลาย กับภาพจำใหม่ ๆ ของเธอ

ละคร รากแก้ว เป็นละคร เรื่องแรก ๆ ที่โชว์ตัวแสดงนำ เป็นผู้หญิง อย่างบท โรยทองทราย หรือ ทราย รับบทบาทโดย เก้าสุภัสสราที่รับหน้าที่ “เดอะแบก” เพราะว่า

จะต้องปะทะคารม กับทุกตัวละคร ในเรื่อง เป็นบทที่โหด ตั้งแต่เคยเจ้าตัว เคยเล่นมา ถึงขนาดเอ่ยปากว่า “ไม่เคยสวมบทบาทที่ท้าทายตนเองขนาดนี้มาก่อน สำหรับเก้ามันยากมาก ยากที่สุดตั้งแต่เคยแสดงมา

เนื่องจากเราไม่เคยเล่นแนวนี้ ตัวละคร โรยทองทราย มันมีความเศร้าหมอง มีความผิดหวัง ผสมปนเปกันมากมาย เรื่องนี้นักแสดงทุกคน ไม่มีคนใดได้นอนนะคะ เนื่องจากว่าต้องอ่านบท ซึ่งบทแต่ละคนยาวมาก ทุกคนต้องทำการบ้านมาอย่างดี พอเวลาเข้าฉากทุกคน จะไม่มีการเล่นนอกบทเลย เรื่องนี้ใช้สมาธิเยอะมาก”

เวลาเข้าฉากกับพี่คริสเป็นอย่างไร

“นอกเรื่องเรา สนิทกันนะคะ แต่ในละครเราจะต้อง เข้าปะทะคารมกันตลอด ซึ่งบางทีถ้าหากเราจะเฮฮา เล่นสนุกกับเขา ก็เหมือนมีเส้นบาง ๆ กั้นเอาไว้ เพราะเวลาเราถ่ายจริง มันต้องใช้อารมณ์เยอะมาก ทั้งความรัก ความแค้น ความผิดหวัง เราจะช่วยส่งอารมณ์กันมากกว่า เพียงสงสายตามา อารมณ์มันก็มาแล้ว พี่คริสเขาเก่งมากจริง ๆ”

รู้สึกยังไงที่ได้กลับมาร่วมงานกับ CHANG2561 อีกรอบ

“ก่อนหน้าที่ผ่านมาเก้าได้โอกาส ได้ร่วมงานกับทาง CHANGE2561 มาแล้ว เก้าพอทราบว่าต้องเจออะไรบ้าง กับพี่กู่ผู้กำกับ เก้าก็จะทราบว่าสไตล์การทำงาน พี่เขาเป็นยังไง รวมทั้งดีใจ ที่ได้กลับมา เล่นเรื่องนี้ เนื่องจากเนื้อหา บทประพันธ์ ที่พี่ฉอด พี่เอส เขาตีความใหม่ ให้มันมีความทันสมัยเพิ่มขึ้น ให้คนดูได้มองเป็นความหลากหลายทางเพศ”

ฝากถึงละครเรื่อง รากแก้ว

“อยากที่จะให้ติดตามดูจริง ๆ ด้วยเหตุว่าทุกตัวละครมีมิติ ทุกคนทำงานเต็มที่มาก เก้าคิดว่าเรื่องนี้ คงจะเปลี่ยนลุคใหม่ ๆ ของนักแสดงทุกคน ที่คุณยัง ไม่เคยเห็น รวมทั้งที่สำคัญ ยังเป็นการ พลิกบทบาท ที่ท้าทายเก้ามาก ดราม่าหนักมาก แอคติ้งเรื่องนี้ คือที่สุด ขอให้ทุกคนเปิดใจ ดูละครแนวใหม่ ที่ได้ตีโจทย์ เรื่องราวความรักในรูปแบบใหม่ ๆ”

“โบกี้ไลอ้อน” ศิลปินหญิงแห่งยุค เจ้าของยอดฟังสูงสุด อันดับ 1 ของไทย ประกาศคอนเฟิร์ม คอนเสิร์ตใหญ่ครั้งแรกในชีวิต “BOWKYLION LANTA CONCERT” ซื้อบัตรพร้อมกัน 22 ธันวาคม

นับว่าเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่น่าตื่นเต้น สำหรับศิลปินหญิง เจ้าของยอดฟังสูงสุดอันดับ 1 ของไทยอย่าง “โบกี้ไลอ้อน” หรือ “โบกี้ – พิชญ์สินี วีระสุทธิมาศ” สังกัดค่ายเพลง What The Duck (วอท เดอะ ดัก) ที่เดี๋ยวนี้ฮอตมาแรง ไม่หยุดเนื่องจากตลอดทั้งปีที่ผ่านมา โบกี้ปล่อยเพลงไหน ก็ฮิตติดลมบน กวาดยอดวิวรวมทั้งหมด กว่า 100 ล้านวิว

กระทั่งคว้ารางวัลศิลปินหญิงแห่งปี จากเวที The Guitar Mag Awards 2022 ไปครอง นอกเหนือจากนั้นยังขึ้นเทรนด์ กระแสโลกออนไลน์ เป็นที่กล่าวถึงอยู่เสมอ รอบนี้โบกี้ปล่อย เซอร์ไพร์สใหญ่ ประกาศคอนเฟิร์มคอนเสิร์ต เดี่ยวเต็มรูปแบบหนแรกในชีวิต

โดยคอนเสิร์ตเดี่ยว เต็มรูปแบบครั้งแรก ในชีวิตของ โบกี้ไลอ้อน

มีชื่อว่า “Chang Cold Brew Cool Club presents BOWKYLION LANTA CONCERT” คอนเสิร์ตที่ย้ำคิด ย้ำทำมากที่สุดจาก “โบกี้ไลอ้อน” คอนเสิร์ตครั้งนี้ นับว่าเป็นหนแรกที่โบกี้ลงใจ รวมทุกเพลงเพราะ จากทุกมุมมองของชีวิต ถ่ายทอดผ่านเสียงร้อง

แล้วก็ความคิดสร้างสรรค์ที่วาดไว้ใน แบบฉบับโบกี้ไลอ้อน ซึ่งชื่อคอนเสิร์ต “BOWKYLION LANTA CONCERT” (โบกี้ไลอ้อน ลานตา คอนเสิร์ต) มาจากคำว่า “ลานตา” คือความละลานตา ที่ทุกคนจะได้เห็น โชว์สุดพิเศษจากคนที่ย้ำคิด ย้ำทำ ใส่ใจทุกรายละเอียดเนรมิตความตระการตา ให้ชมตลอดการแสดง เหมือนงานศิลปะ ชิ้นโบว์แดงจากโบกี้

รวมทั้งคำว่า “มุมมองทางสาย” ที่แต่ละคนมีความตื้น-ลึกของสายตา ไม่เท่ากัน เปรียบเหมือนการมองเห็น “ตัวตน” ของโบกี้ ที่คุณอาจยัง ไม่เคยเห็นครบ ทุกด้านอีกด้วย

นอกจากนี้อีกหนึ่ง ความพิเศษที่โบกี้พิถีพิถันมาก ๆ เป็น การหยิบเอาความเชื่อส่วนตัว ที่หลงใหลมาก ๆ นั้นคือ “โหราศาสตร์-ดูดวง-การโคจรของดวงดาว” มาเป็นคอนเซ็ปไอเดีย ของคอนเสิร์ตครั้งนี้ด้วย ทั้งฤกษ์งามยามดี ในการปล่อยชิ้นงานต่าง ๆ แล้วก็วันขายบัตรคอนเสิร์ต

โดยจะเห็นได้จากภาพ โปสเตอร์คอนเสิร์ต ที่ได้แรงบันดาลใจ มาจากไพ่ยิบซี “Queen of wands” สื่อความหมายถึง ผู้หญิงเก่งที่มีความมุ่งมั่น ในการทำงาน และมีความฝัน สร้างแรงบันดาลใจ เปรียบเสมือน ราชินี ที่ไม่ท้อถอย รวมถึงโปรดักชั่น ความอลังการที่โบกี้ พร้อมพาทุกคน โคจรไปพร้อมกับดวงดาวอีกด้วย

แฟนคลับ ทุกคนเตรียมเปิดไพ่พยากรณ์ ความสนุกสนานที่คาดไม่ถึงพร้อมกันในวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2566 ณ ธันเดอร์โดมเมืองทองธานี ราคาบัตรมงคลเริ่มตั้งแต่ 1,500 / 2,000 / 2,500 / 3,000 / 3,500 / 4,000 / 4,500 และก็ VIP 5,000 บาท

งานนี้แฟนคลับ กาปฏิทินปักหมุดฤกษ์ดี เปิดขายบัตรวันที่ 22 เดือนธันวาคมนี้ ที่แอพพลิเคชั่น The Concert ตั้งแต่เวลา 10 โมง เป็นต้นไป นอกจากสามารถติดตามข่าวสารต่าง ๆ ของ “โบกี้ไลอ้อน” ได้ทางwww.facebook.com/whattheduckmusic และ www.facebook.com/bowkylion

โบกี้ ไลอ้อน ตอกกลับคนบูลลี่ มีสิทธิ์อะไรด่าคนอื่นหน้าปลอม

นักร้องโด่งดัง “โบกี้ ไลอ้อน” ฟาดกลับ หลังจากถูกบูลลี่ เรื่องทำศัลยกรรม แฟน ๆ ให้กำลังใจ เป็นอีกหนึ่งคนที่ ออกมาสารภาพไม่อ้อมค้อมว่า สวยขึ้นเพราะว่าพึ่งมีดหมอ สำหรับ นักร้องสาวเสียงดี โบกี้ ไลอ้อน หรือ โบกี้ – พิชญ์สินี วีระสุทธิมาศ ที่ก็ยังไม่วาย พบแซะเรื่องทำศัลยกรรม อยู่บ่อย ๆ

ล่าสุดนักร้องสาว ก็ได้รีโพสต์เนื้อความหนึ่งที่ทวีตว่า “ไปนั่งอ่านคอมเม้น ในเพลงล่าสุด ของโบกี้แล้วนึกถึง คำพูดของแบม ๆ เลยคนไทย นิชอบกดกันให้ต่ำลง ไปจริง ๆ ด่ากันอย่างเยอะ ในคอมเม้นยูทูป หน้าปลอมบ้าง ตลาดล่างบ้าง เป็นแบบ ปสด อะ ไม่ชอบก็แค่เลื่อนผ่านป่ะ #bowkylion”

ซึ่งเจ้าตัว ได้เขียนทวีตตอบเนื้อความที่แชร์มาว่า “อ่านทุกคอมเม้นท์ แล้วก็น้อมรับคำติชม มาปรับปรุงในงานต่อไปเสมอ พอพบถ้อยคำ ที่รุนแรงก็ต้องใจแข็ง พยายามมีวุฒิภาวะ เสมอ บอกตนเองว่าควรจะวางตัวให้ดี อย่าไปโต้กลับเลย ให้ผลงานพิสูจน์ แต่ว่าก็มีสิ่งที่คิดในใจว่า หน้าฉันไปปลอมบนหน้าแกหรอ ไอต้าวตลาดบน”

แล้วก็ยังได้ทวีตเนื้อความ เพิ่มเติมอีกหนึ่งใจความ ฟาดกลับคนวิจารณ์ ถึงการทำศัลยกรรม พร้อมติดแฮชแท็ก ชื่อเพลงใหม่ทิ้งท้าย ด้วยว่า “มีสิทธิ์อะไรมาด่าคนอื่นหน้าปลอม นี่ใช้กระดูกตนเองหมดเลย #คนเฬว ซึ่งมีแฟน ๆ เข้ามาคอมเมนต์ ให้กำลังใจนักร้องสาว และก็ร่วมแสดงความคิดเห็น กันอย่างมาก

นาทีนี้ต้องยกให้เธอ โบกี้ ไลอ้อน ก้าวผ่านคำบูลลี่ เปล่งประกายในแบบตัวเอง

โบกี้ ไลอ้อน สาวเสียงดี เปิดเผยความรู้สึกหลังก้าวผ่าน คำบูลลี่ สร้างความมั่นใจ สวยไปเลยตามสะดวก Fc แห่กดหัวใจรัว ๆ

เป็นศิลปินสาว เสียงเอกลักษณ์ โบกี้ พิชญ์สินี สาวสวยมากความสามารถ สังกัดค่ายเพลง What The Duck ด้วยลุคของเธอ สไตล์ตรง ๆ ตลก ทั้งสวยแล้วก็มีความเชื่อมั่น ทำให้แฟน ๆของเธอนั้น เหนียวแน่น เรียกว่าหลงใหล ทั้งเสียงและก็ความสวยของเธอเป็นอย่างมาก

ปัจจุบันสาวโบกี้ ได้โพสต์ข้อความ ผ่านช่องทางโซเชียลส่วนตัว เส้นทางมรสุมการก้าวผ่าน คำบูลลี่ต่าง ๆ กระทั่งมาถึงวันนี้ โดยบอกว่า ทุกสเตจ ค่อย ๆ พาตัวเองปลดล็อกออกมาจากความไม่มั่นใจ ในตนเอง มีความสุขที่ได้ร้องเพลง บนเวทีในชุดสวย ๆ ที่ตัวเองชอบ ลืมเรื่องหลังลาย ขาลาย พุงยื่น รักแร้ย่น ไปบ้างเถอะเนอะ อยากสวยก็สวยไปเลย ในแบบที่สะดวก และก็เหมาะสม แล้วคุณจะเปล่งประกาย ในสเตจของคุณเอง

ได้รับบทบาทที่มากมาย ท้าทายฝีมือการแสดง ของนางเอกสาวดาวรุ่งหน้าหวาน มินนี่ ภัณฑิรา พิพิธยากร ที่ปัจจุบันเจ้าตัว ก็จะต้องสวมบทบาท 2 คาแรกเตอร์ในละคร “สาวสองวิญญาณ” ทางช่อง 7HD ประกบคู่พระเอก จิณณ์–จิณณะ ที่กำลังกระแสดี

เลยถามมินนี่ ว่า เรื่องนี้มีความท้าทายอย่างไรบ้าง?

“ มินนี่รับบทเป็น ฝนแก้ว เป็นผู้หญิงสู้ชีวิต คนหนึ่งที่ไม่ค่อยสู้คน เป็นเด็กนิสิตที่เรียนไปด้วยทำงานไปด้วย สิ่งที่ท้าทาย คือวิญญาณ พี่หมวยอัญษนา รับบทเป็น อวันตี แม่พระเอก มาเข้าร่าง คาแรกเตอร์จะค่อนข้าง ที่แตกต่างกัน จากคนที่ไม่สู้คนเลย กลายเป็นผู้ที่สู้คนมาก ช่วงแรกคิดว่า เป็นแนวโรแมนติกคอมเมดี้ แฟนตาซี สรุปไป ๆมา ๆ เป็นดราม่าเฉย เลิฟซีนกับพี่จิณณ์ก็จะต้อง ใช้คำว่ากุ๊กกิ๊กแล้วกัน เพราะถ้าหากหวาน ๆ จะไปอยู่คู่น้องภูมิ-เกียรติภูมิ กับ มายด์-มาริสา ”

เรื่องนี้ได้เป็นนางเอกครั้งแรก?

“ ใช่ค่ะ มีคนคอมเมนต์ว่า นางเอกหน้าใหม่ไม่คุ้นเลย เพราะว่ามินนี่ไม่เคยเล่น แบบเต็มเรื่องขนาดนี้ ถามกดดันมั้ย กดดันนะ ก็จะทำให้ดีที่สุด ฝากละคร สาวสองวิญญาณด้วยนะคะ ”

เราได้รับบทที่ท้าทาย แล้วก็หลากหลายขึ้น จริง ๆ เราเลือกบทจากอะไร?

“ ส่วนใหญ่เลือกจากใจค่ะ น่าเล่นมากก็จะรับ เพราะว่าเราไม่อยากให้คนติดคาแรกเตอร์นั้นเท่าไร แบบจะเล่นแค่ เรียบร้อยนะ แค่หวานนะ เลยอยากชาเลนจ์ตัวเอง เล่นอะไรให้มันหลากหลายมากขึ้น ”

รู้สึกอย่างไรที่มีแฟนคลับหนุ่ม ๆ แบบแฟนบอยเยอะ?

“ ส่วนใหญ่แฟนบอยมาเป็นแฟนคลับ เรารู้สึกว่าแฟนคลับก็เหมือนเพื่อน รู้จักกันหมด ”

มีเจอแฟนคลับหื่นกามบ้างมั้ย?

“ จะมีในโซเชียลมากกว่า เขาไดเรกต์มาและก็ส่งรูปตัวเองแบบโป๊ ๆ มา เอาจริงหนูเลือก ที่จะอิกนอร์มากกว่า เพราะว่าไปให้ความสำคัญเขาก็ได้ใจ บางคนหากหนัก ๆ เลยหนู ก็จะตอบแบบได้เท่านี้เหรอ สวนกลับเลย ถามว่าพวกนี้มีเยอะมั้ย ก็ช่วงที่เราแต่งเซ็กซี่ มันก็มีมาเยอะเช่นกัน ตกใจ แรก ๆ ก็บอกป๊าอันนี้คือไรอะ ทำไมเค้าถึงเลือก ที่จะทำแบบนี้ได้ แต่ว่าหนูกลับมองว่า เขาบางทีอาจไม่ปกติ แต่เขาไม่ควร จะมาทำร้ายคนอื่น คือคุณก็อยู่ในพื้นที่ของคุณไป ส่วนมากปะป๊าก็จะพูดว่าอย่าไปดู อย่าไปสนใจ ”

ทำให้เราต้องลดเซ็กซี่ลงมั้ย?

“ เราไม่ต้องลดเซ็กซี่ลงค่ะ มันต้องลดที่ตัวเขา เราเป็นเหยื่อ หนูว่าเราจะแต่งอย่างไรก็ได้ มันคือเรื่องของเรา อันนั้นก็เรื่องของเค้า ซึ่งเค้าไม่ควร จะมาทำแบบนั้นกับเรา ”

หลาย ๆ คนพูดว่าเราโตเป็นสาวแซ่บขึ้น?

“ จริง ๆ การที่หนูเซ็กซี่ในไอจีเนี่ย หนูรู้สึกว่าต้องการจะ ได้รับบทเซ็กซี่บ้าง สรุปคนเค้าคอมเมนต์ว่าน่ารัก จบ (ยิ้ม) ขอผู้จัดนะคะ ถ้าใครเห็นหนู แซ่บได้นิดนึงไม่ติด ”

อะไรที่ทำให้เราอยากลองบทเซ็กซี่?

“ ต้องบอกก่อนว่า เซ็กซี่ของแต่ละคนไม่เท่ากัน หนูว่าการแสดงมันกว้างมาก หนูไม่อยากจำกัดคาแรกเตอร์ แค่คาแรกเตอร์เดียว หนูว่าหนูเล่นได้หลากหลาย ”

เซ็กซี่ยากมั้ยหน้าเราดูหวานมาก?

“ ยากเช่นกันนะคะ ถ้าหากใครดูในไอจี ก็จะเห็นว่าเปรี้ยวบ้าง แต่ด้วยคาแรกเตอร์ที่ได้รับ เค้าคงเห็นว่า เราเป็นคนหน้าหวานจริง ๆ เราก็จะได้แต่หวาน ๆ ดูไม่ค่อยสู้คน แต่ก็แอบเป็นสาวห้าว ได้พ่อมาค่ะ ”

ปะป๊ามีลิมิตในการเซ็กซี่มั้ย?

“ เคยมีที่แบบว่า ลงไปแล้วป๊าแคปมาบอกว่า โป๊ไปหรือเปล่า แต่คืออยู่บ้านเดียวกันนะคะ ป๊าอยู่ข้างล่าง เราอยู่ข้างบน หนูบอกแฟชั่นค่ะ สุดท้ายแล้วก็ยอมแหละ ”

จริง ๆ รู้สึกอย่างไรที่เราเป็นสาวในฝันของหนุ่ม ๆ?

“ เค้าบางทีอาจชอบที่หน้าหวานหรือเปล่า รู้สึกว่าขอบคุณ ที่มาชอบ มาเอ็นดูกัน แต่ว่าก็อยากให้ ชอบในตัวตนของเรา ตัวตนหนูก็เป็นสายกิจกรรม สายลุย เป็นคนอยู่ไม่ค่อยสุข หนูชิล ๆ ไม่ค่อยหวาน ห้าวมั้ย (ยิ้ม) เป็นคนรักความถูกต้อง ตั้งมั่นทำงาน รักครอบครัวค่ะ ”

ประวัติ มินนี่ ภัณฑิรา พิพิธยากร

ชื่อจริง ภัณฑิรา พิพิธยากร ดาราหญิงชาวไทย เกิดวันที่ 4 ม.ค. พ.ศ. 2543 ณ ปีพ.ศ. 2565 เธอจะมีอายุ 22 ปี

มินนี่เริ่ม เข้าสู่ในหนทางบันเทิง จากการประกวด ในรายการ Young Model 2015 โดยในคราวนั้น มินนี่ได้รับตำแหน่ง รองชนะเลิศ และก็ได้เซ็นสัญญา เข้ามาเป็นนักแสดงในสังกัดช่อง 7 HD

มินนี่ได้ปรากฏตัว ครั้งแรก ในละครเรื่อง นางฟ้าเปื้อนฝุ่น ในฐานะนักแสดงรับเชิญ และได้ส่งผลงานละครอื่น ตามมา อาทิ บาปบริสุทธิ์ Live , เจ้าสาวช่างยนต์ , บ้านปั้นดาว , ปิศาจหรรษา , ฟ้ามีตา (ตอน แม่ค้าปากตลาด , คนหนังเหนียว , คนดี ๆ อยู่ไหน) , เรือมนุษย์ และก็ มธุรสโลกันตร์

นอกเหนือจากผลงานการแสดงละคร มินนี่ ยังได้เปิดตัว ในฐานะนางเอกภาพยนตร์ เรื่องแรกเรื่อง แสงกระสือ ซึ่งทำให้เธอมีชื่อเสียงมากขึ้น ยิ่งไปกว่านั้นภาพยนตร์ เรื่องแสงกระสือ ยังได้รับคัดเลือก เป็นตัวแทนภาพยนตร์ไทย เข้าชิงรางวัลออสการ์ครั้งที่ 92 อีกด้วย

ปัจจุบัน 2 พี่น้องคนบันเทิง ยิปซี คีรติ และ ยิปโซ อริย์กันตา มหาพฤกษ์พงศ์ ได้มาเป็น แขกรับเชิญคนพิเศษ ในรายการ Club Friday Show ผลิตโดย CHANGE2561 ได้เล่าย้อนอดีต ในความสัมพันธ์ ของพี่น้อง ที่ก่อให้เกิดช่องว่างมา ตลอด 20 ปี กว่าจะหันหน้ามาเคลียร์กัน อย่างเปิดใจ พร้อมความรู้สึกในใจของ คุณพ่อ ที่มีต่อลูกสาวทั้งสอง ที่ทำให้เสียน้ำตา กันทั้งรายการ

ยิปซี ยิปโซ เล่าย้อนไปแล้วในตอนนั้นเกิดอะไรขึ้น ในความสัมพันธ์พี่น้อง?

ยิปซี : พ่อเป็นผู้ชาย ที่เท่มากเขาเหมือน เป็นฮีโร่ในใจเรา ตั้งแต่เด็กเลยค่ะ ยิปโซ เขาเกิดมาเป็นเด็ก ที่ค่อนข้างจะป่วย ต้องเข้าตู้อบเกือบไม่รอด เป็นเด็กอ่อนแอมาก

ยิปโซ : เกิดมาเป็นก้อนตัวเหลือง ๆ ที่พ่อต้องเอาไปผึ่งแดด ตอนเช้าค่ะ ไปวางไว้บนขาแล้วคราวนี้ก็พลิกด้านไป ๆ มา ๆ

ยิปซี : พอน้องเขา เริ่มโตขึ้นมานิดนึง เขาก็เริ่มมีอาการ สะเงาะสะแงะ คือเขาเป็นเด็กอมนม แล้วเขาก็ฟันผุทั้งปากเลย เนื่องจากเขาต้องครอบฟันเหล็กตั้งแต่เด็ก ซึ่งมันทำให้รูปลักษณ์ของ ยิปโซ ดูเป็นเด็กที่ไม่น่ารัก เหมือนญาติ ๆ ก็จะไม่ค่อยเอ็นดู ป๊าเขาก็เป็นคนดีเนอะ เขาก็จะมีความรู้สึกว่าคนนี้ทั้งอ่อนแอด้วย แล้วก็ไม่ค่อยมีใครสนใจเขา ป๊าก็เลยประกบติดคนนี้ เพราะว่าเขาก็เห็นว่าเราก็มีแม่แล้ว

แต่ก่อนยิปก็จะมี อากงรักมากโอ๋มาก เปย์ยิปมาก แต่ยิปรู้สึกไม่โอเคเลยในเวลานั้น เขาไม่ทราบว่า เขาเป็นคนที่เรา อยากได้รับความสนใจจากเขาที่สุด ยิปเป็นเหมือนแบบเด็กต่อต้าน เป็นกบฏ ก็คือไม่ค่อยเอาที่บ้านเท่าไร ไปอยู่กับเพื่อน เพราะว่าพ่อสนใจ น้องมากกว่า งั้นเราทำเป็นแบบ ฉันไม่ต้องการคุณ แล้วก็กลายเป็นเงียบไป สร้างโลกอีกโลกหนึ่ง ที่เรารู้สึกว่า โลกนี้ไม่มีคนแย่งฉัน ก็คือที่โรงเรียน เวลากลับมาบ้าน ก็จะกลายเป็นไม่สุงสิง กับใครเลย ก็ขึ้นห้องตนเอง

ชนวนจริงๆคือ คุณพ่อ?

ยิปซี : ใช่ค่ะ แต่เขาไม่ทราบนะคะ เขาพึ่งจะมารู้ตอนประมาณปีนี้เอง รู้แค่ว่าลูกแปลก เขาก็พยายาม ชวนยิปคุยเราก็จะแบบถามคำ ตอบคำ ทำหน้าเฉยชาจน แม่คุยกับพ่อว่า เขาแปลก ๆ นะหรือลองพา ไปหาจิตแพทย์ไหม

ยิปโซ : มันจะมีอีกมุมหนึ่ง ในมุมที่เจ๊เล่า แต่ยิปขออนุญาตเล่าเป็นตัวแทนพ่อแม่ เนื่องจากเขาไม่ได้ มาอยู่ตรงนี้ด้วย เราเข้าใจในฝั่งของตัวเองนะ

แต่ว่ามันมีมุมหนึ่งที่ คนเราทุกคนมันอยู่ร่วมกัน ในบ้านเดียวกัน แล้วมันมีคนที่พยายาม จะเชื่อมกับอีกคนหนึ่งมาก ๆ แล้วมันไม่ได้ผลตอบรับมา ซึ่งพ่อแม่ยอมรับนะว่า ต่อให้เป็นพ่อแม่โตกว่าอะไรกว่า แต่พ่อแม่ เป็นแค่มนุษย์คนหนึ่ง ที่อยากได้ความรักเหมือนกัน เขาเองก็รู้สึกว่า ลูกคนนี้ไม่รัก มันก็เลยก่อให้เกิด เหมือนช่องว่างค่ะ

ส่วนระหว่างพี่น้อง ก็หนักอยู่ค่ะ (ยิ้ม) แต่มันหนัก ในอดีตนะคะ ในตอนนี้มันไม่หนักแล้วอันนี้ต้องบอกก่อน ขณะที่เจ๊มองว่าป๊าเป็นไอดอล เราเองก็มองว่าเจ๊เป็นคนที่ เราต้องการเข้าหา ยิ่งตอนที่เหมือน เป็นวัยรุ่นขึ้นมาหน่อยแล้ว

ตอนที่อยู่โรงเรียน เรายิ่งรู้สึกว่าเขาป๊อปมาก ในโรงเรียน ป๊อปกับทุกคน แล้วเป็นอีกทั้งเชียร์ลีดเดอร์ เป็นเด็กที่สวยระดับต้น ๆ ของโรงเรียนเป็นดาว โบฟ้า นางฟ้าอะไรอย่างนี้ ตั้งแต่เด็กกระทั่งโต เรารู้สึกว่าเราต้องการเล่นด้วย ต้องการอยู่ด้วย เข้าหาต่อให้เขาลำไย เราก็ไม่สนใจ ฉันไม่สน ฉันจะเล่นด้วย

อันหนึ่งที่พี่ชื่นชม ยิปซี ถ้าหากบังเอิญน้องออกไป ประชดในอีกแบบหนึ่ง ไปประชดด้วยการทำให้ชีวิตให้ห่วย และสุดท้ายแล้วพ่อแม่ จะงงไปกันใหญ่ เลยว่าเกิดอะไรขึ้นลูก แล้วกว่าที่จะกล่าวว่า เกิดอะไรขึ้นลูกคำนี้ ออกมามันบางทีอาจช้าไปแล้ว มันไม่ใช่ความสัมพันธ์ ของพ่อแม่เท่านั้นด้วย พี่น้องสองคน 20 ปี แล้วเราปลดล็อกกัน ได้ยังไง?

ยิปโซ : การปลดล็อก นี่ปลดแล้วปลดอีก ปลดแล้วปลดอีก จังหวะหนึ่งเรา รู้สึกต้องการเข้าหาไปเปิดใจคุย จังหวะนั้นเขาบางทีอาจยังไม่พร้อม รวมทั้งจังหวะที่เจ๊ พร้อมแล้วเจ๊เข้ามาหา เราก็ไม่ไว้ใจเขแล้ว แต่ยิปว่าจุดเรียกว่า คือสิ่งสำคัญ คือคุณไม่หยุดพยายาม มันจะมีช่วงหนึ่ง ที่เจ๊เข้ามาหาเต็มที่มากค่ะ มันค่อย ๆ กลับมาสร้างความไว้วางใจได้ ให้เราอีกครั้งหนึ่ง มันก็พัฒนา มาถึงจุดที่ว่า เราได้มาทำรายการด้วยกัน

ถาม ยิปซี จุดเปลี่ยนของเราคือยังไง

ยิปซี : มันก็นานนะคะ มันก็ 20 ปีกว่าเนอะ มันไม่เคยแฮปปี้ มันเป็นความทุกข์ เราแก้ไขปัญหาไม่ถูกจุด ตั้งแต่ต้นค่ะ เราจะรู้ตัวยังเป็นรูอยู่ตลอดเวลา มันไม่เติมเต็มพอ มันเริ่มตกตะกอน เราก็เริ่มรู้สึกว่าพอเหอะ

อยากจะให้มันดีกันสักที เราไม่เคยเกลียดเขา แค่เรากลัว เรากลัวเพราะว่าเรารู้สึกว่า เราสู้เขามิได้ จำได้ว่าบอกประโยคว่า เจ๊อิจฉาโซ ซึ่งมันเป็นสิ่งที่เรา ไม่ได้อยากจะพูดที่สุด ด้วยเหตุว่ามันเป็นประโยคที่ฟังดูน่าเกลียด

มันเป็นประโยคที่ยอมรับว่า เราแพ้ แล้วเราเป็นคนที่ ชอบการเอาชนะ เป็นคนไม่ชอบแพ้ ชอบทำให้สำเร็จค่ะ แล้วการที่เราไป บอกต่อหน้าเขาว่า จริง ๆ ฉันอิจฉาแกนะ เป็นก้อนที่เปราะบางที่สุดของเราแล้วค่ะ กลัวมากวันนั้น กลัวมากที่เราพูดต่อหน้าเขา

ด้วยเหตุว่าเราไม่ทราบว่า จะออกมาเป็นแบบไหน แต่ว่ามันแค่รู้สึกว่าวันนั้น มันต้องพูดแล้ว แล้วมันกลับกลายเป็นว่า เหมือนพอเราเปิด เขาก็เปิดด้วยค่ะ

ได้เวลายิ้มกว้าง แบบฟิน ๆ เนื่องจากว่า อาลี ซีอานี และ ชมพู่ อารยา เอ ฮาร์เก็ต 2 ผู้บริหาร เค โอ แอล แมนเนจเมนท์ ขนทัพ 3 รายการ ยูทูบสุดปัง มาเปิดตัวรวดเดียว ทั้ง “My Material World”, “GOT You” และ “ครัวยายหนิง” เดบิวต์ 3 คนดังในวงการ

ที่รู้จักเป็นอย่างดี ให้เป็นยูทูบเบอร์หน้าใหม่ ทั้งตัวแม่แห่ง วงการบันเทิงอย่าง ชมพู่ อารยา เอ ฮาร์เก็ต, ก็อต จิรายุ ตันตระกูล นักแสดงคุณภาพตัวพ่อ และ ยายหนิง วารี หน่อแก้ว คุณแม่ซุปตาร์คนดัง และคุณยายสุดเลิฟ ของคุณหลานสายฟ้า-พายุ

รายการไลฟ์สไตล์ ตามติดชีวิตคนดัง แบบสุดเอ็กซ์คลูซีพ ในมุมส่วนตัว ที่ไม่เคยได้เห็นมาก่อน พร้อมกลเม็ด สำหรับการดูแลตัวเองให้แฮปปี้ และสเตย์สตรองอยู่ตลอด พร้อมแล้ว เสิร์ชยูทูบ แล้วเข้าไปยิ้ม และหัวเราะดัง ๆ ได้เลย

ชมพู่ อารยา เอ ฮาร์เก็ต เล่าว่าเอาจริง ๆ

ว่า รายการ My Material World เป็นรายการแรก ที่เป็นของชมจริง ๆ เป็นรายการที่ทุกคน จะได้เห็นชมในมุม ที่ไม่เคยเห็นมาก่อน แบบไม่มีสคริปต์ ไม่มีการเตี๊ยม และเซตสิ่งต่าง ๆ ไว้ล่วงหน้า ไม่มีเอฟเฟกต์เยอะแยะ ให้ปวดตา ทำให้ผู้ชมได้เห็นความเรียล สด ซิง และเป็นธรรมชาติมาก ๆ ให้เห็นตัวตน เวลาชมไปไหนทำอะไร

เหมือนว่าทุกคนได้ตามติด และไปทุกที่ กับชมเลย ไม่ว่าจะเป็นช็อปปิ้ง อาหารการกิน หรือเวลาทำกิจกรรมต่าง ๆ ในครอบครัว ซึ่งคิดว่าทุกคน ก็น่าจะชอบ และสนุกสนาน ไปกับรายการที่ชมตั้งใจทำขึ้น เพื่อให้ทุกคนได้ รู้จักชมมากขึ้น กว่าที่รู้จักผ่านทางหน้าจอ อย่าลืมติดตาม และเป็นกำลังใจให้ชมด้วยนะคะ

ก็อต จิรายุ ตันตระกูล เปิดเผยว่า เนื่องจากว่าผมเชื่อว่า ถ้าเกิดเราจัดการ กับตัวเองได้เป็นอันดับแรก เราก็จัดการทุกเรื่อง บนโลกนี้ได้ ด้วยเหตุนี้รายการ GOT You ก็เลยเป็นรายการ ที่แชร์เรื่องราว มุมมองจากเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในสังคม

รวมถึงแนวคิดสำหรับการจัดการ ชีวิตให้บาลานซ์ และมีความสุข ทำให้เรารู้จักตัวเอง มากยิ่งกว่าที่เคยเป็น สอดแทรกการออกกำลังกาย ให้สุขภาพดี เนื่องจากว่าเป็นทางถนัดของผมเลย ซึ่งทั้งหมดนี้ จะช่วยสร้างแรงผลักดัน และกำลังใจ ให้ผู้ที่ท้อแท้ หมดไฟ ไม่มีแพสชัน

และเบิร์นเอาต์สำหรับการทำงาน ให้กลับมาพร้อมสู้ และลุยกับทุกอย่าง เพื่อให้ไปถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้ ซึ่งเป็นครั้งแรก ของผมที่ได้ทำรายการ ทางยูทูบอย่างเป็นทางการ และมีเรื่องราวที่จะแชร์เยอะไปหมด ขณะนี้ตื่นเต้นมาก และรอวันที่รายการ จะได้ออนตอนแรกครับ ฝากเนื้อฝากตัว และฝากติดตามตอนแรก ของ GOT You ด้วยนะครับ

ยายหนิง วารี หน่อแก้ว เปิดใจว่า ปกติยาย ใช้ชีวิตเรียบง่ายและพอเพียง ชอบปลูกพืชผักสวนครัวปลอดสารไว้ทาน และออกกำลังกาย ให้สุขภาพดี มีความสุขที่ได้ดูแล และทำอาหารให้ลูก และหลานทาน

พอได้มาทำ “ครัวยายหนิง” แบบจริงจังก็รู้สึกตื่นเต้น และดีใจมาก เนื่องจากว่าจะได้แบ่งปัน กลเม็ดดี ๆ ขั้นตอนการดูแลสุขภาพ รวมถึงการใช้ชีวิตให้อินเทรนด์ และมีความสุข กับปัจจุบัน เพื่อเป็นแนวทาง ให้กับครอบครัวอื่น ๆ

เลือกนำไปใช้ดูแลตัวเอง และคนที่อยู่รอบข้าง ก็อยากให้รับยายหนิง เป็นยายอีกคนของครอบครัว ที่คอยแนะนำสิ่งดี ๆ ที่สำคัญ อย่าลืมไปกดติดตาม กดไลค์ กดกระดิ่ง คอมเมนต์แนะนำ สิ่งที่อยากรู้ และเป็นกำลังใจ ให้ยูทูบเบอร์หน้าใหม่ อย่างยายหนิงด้วยนะคะ ส่วนคนไหนที่ยังไม่เคยดู “ครัวยายหนิง” ออนตอนใหม่ ทุกวันอาทิตย์ เวลา 13.00 น. ซึ่ง ขณะนี้ออนไปแล้ว 4 ตอน สามารถไปดู ย้อนหลังได้เลยค่ะ

“ชมพู่อารยา” เบรกหัวทิ่ม ประกาศปิดอู่ หลังสามี ขอมีลูกเพิ่ม ตั้งทีมฟุตซอล

ก่อนหน้าที่ผ่านมา สามี “น็อต วิศรุต รังษีสิงห์พิพัฒน์” โพสต์ภาพกับลูก ๆ พูดว่า ” เพิ่มอีกสักคน ก็ตั้งทีมฟุตซอลได้แล้ว” ทำเอาแม่ “ชมพู่ อารยา เอ ฮาร์เก็ต” รีบออกมาเบรก หัวทิ่มว่า ” พอค่ะ” ก่อนเปิดใจว่า ”

เป็นไปไม่ได้ค่ะ เป็นไปไม่ได้แล้ว (หัวเราะ) พอแล้ว มันกำลังดีแล้วค่ะ ชมคิดว่านะ คือจริง ๆ เขาก็รู้แหละว่า มันกำลังดี เรากำลังโฟกัสได้ดี อีกอย่างเท่านี้ เวลาจะไปไหนมาไหน เราก็ไม่รู้แล้วจะนั่งรถอะไร จริง ๆ ตอนที่รอน้องเกลนานมาก ๆ รอมา 1-2 ปี

ตอนนั้นเราก็เคยคุย กันแล้วนะคะ ว่าเราจะมีเพียงแค่ แฝดชายหนึ่งคู่ ซึ่งรีเควสของเขามีแค่นั้น แต่ว่าสำหรับผู้หญิง ที่ได้มาอันนี้ คือแม่อยากได้ เนื่องจากว่าเรารู้สึกว่า มันน่าจะเป็นภาพที่ครบ อีกอย่างสำหรับผู้ชายอ่ะ ได้อีกเขาก็ชอบอยู่แล้ว เนื่องจากว่าเขาไม่ได้ท้องเอง

ถามว่าเพราะอะไร อยู่ดี ๆ เขาถึงได้รีเควสขึ้นมา เขาก็พูดไปเรื่อยแหละ (หัวเราะ) หลายคนแซวว่า ถูกคุณแม่ช็อตฟีล ก็มันไม่ได้อ่ะ เราเหนื่อย (หัวเราะ) ทุกวันนี้คือมันเต็ม จริง ๆ แล้ว มันสุดขีดความสามารถของดิฉันแล้ว ทั้งในเรื่องร่าง

และสมองสำหรับการที่จะจัดสรร คือเขาก็รู้แหละว่า มันก็สุดท้ายแล้วจริง ๆ ด้วยอายุเราเนอะ และท้องคราวนี้ ก็เหนื่อยกว่า ทุกครั้งด้วย ไม่ฟลุคแล้ว (หัวเราะ) ไม่มีแล้วค่ะ ไม่เอาแล้ว ไม่ไหว

ดูจากภาพเขาก็ดู ชำนาญในการดูแลลูกนะ แต่ว่าในความเป็นจริง ก็คือเราที่แบบ แทบจะตลอดเวลา เพราะว่าคุณพ่อ จะต้องทำงาน สามารถปล่อยลูก อยู่กับพ่อได้ค่ะ ได้ไม่นาน (หัวเราะ)

คือมันก็ยังมีเรื่อง ของดีเทลหลาย ๆ อย่างเนอะ ในการดูแลเด็ก การเข้าห้องน้ำ กินข้าว กินนม พี่สองคนเลี้ยงน้องเก่งมาก และในตอนนี้ชอบเล่น ทุกอย่างที่เป็นของน้อง เอาของน้องมาเล่น ลองสวมเสื้อผ้าน้อง

แต่ว่าในความทะนุถนอม ของเขามันก็ยังไม่พออ่ะ เขาเป็นเด็กผู้ชายเนอะ เขาก็จะมี ความแบบว่าทะโมน และเขาก็คงคิดว่า สิ่งที่เขาทำคือ เบาของเขาแล้ว “

นี่เป็นโปรเจกต์ หนังญี่ปุ่น เรื่องที่ค่อนข้างจะเป็นที่จับตา มองในรอบปีเลยจริง ๆ เนื่องจากว่าเป็นการหยิบเอา ตำนานหนังแอนิเมชั่น ขึ้นหิ้งจากสตูดิโอจิบลิ มาปัดฝุ่น สร้างใหม่เป็นฉบับคนแสดง ออกมาเป็น “Whisper of the Heart วันไหน วันนั้น หัวใจบรรเลง” หนังที่ดัดแปลงสร้างจาก อนิเมะชื่อเดียวกัน ในปี 1995 โดยมาร้อยเรียง รวมทั้งสร้างชีวิต ให้กับตัวละครการ์ตูน ให้มีสีสันรวมทั้งเนื้อหนังขึ้นมา

หนังญี่ปุ่น Whisper of the Heart วันไหน วันนั้น หัวใจบรรเลง

เป็นเรื่องราวของ ชิซึกุ นักเรียนชั้น ป.3 ที่ได้รู้จักกับ เซอิจิ ที่เรียนอยู่ชั้นเดียวกัน ที่โรงเรียน แม้ว่าในตอนแรกเธอ จะไม่ค่อยชอบขี้หน้า เขา แต่ว่าเธอจะต้อง ทึ่งกับความพยายาม ไล่ล่าตามความฝันของเขา รวมทั้งเขาก็ยังทราบด้วยว่า เธออยากจะเป็นนักเขียน ที่ประสบความสำเร็จ

จนกระทั่งเวลาในอีก 10 ปีต่อ ชิซึกุ ในวัย 24 ปี ได้ละทิ้งความฝัน ในวัยเด็กไป กลายมาเป็น กองบรรณาธิการสำนักพิมพ์ เกี่ยวกับหนังสือเยาวชน เธอดิ้นรนใช้ชีวิตประจำวัน ไปให้ได้ทุกวัน ในขณะที่ เซอิจิ ขณะนี้เขาอยู่เมืองนอก รวมทั้งยังคงวิ่งไล่ความฝันนั้น ของตัวเองอยู่

ข้อแรกผู้เขียน จะต้องขอออกตัวก่อนว่า ยังไม่เคยได้ ดูหนังต้นเวอร์ชั่น แบบเต็ม ๆ มีเพียงเห็นคัทซีนมาบ้าง ประปรายจากพวกแคปชั่น หนังดังอมตะที่เกี่ยวกับ หนังเรื่องนี้ และก็ไม่ใช่แฟนพันธุ์แท้ ผลงานจากสตูดิโอจิบลิอะไร เนื่องจากว่าเคยเสพงาน จากค่ายนี้แค่เพียงบางเรื่องแค่นั้น เท่ากับว่าแทบจะ ไม่มีประสบการณ์อะไรก็ตาม เอามาเปรียบเทียบกับงานต้น และก็คงจะถ่ายทอดบทความนี้ ออกมาในมุมมอง ของผู้ที่พึ่งได้สัมผัส กับเรื่องราวนี้ เป็นครั้งแรก

ในส่วนของพล็อต ของหนัง Whisper of the Heart ก็น่าจะเวิร์กดี หากว่าเป็นพล็อต ที่นำมาใช้เมื่อ 20 ปีที่แล้ว แต่ว่าวันเวลาผ่านไป การนำเอางาน ขึ้นหิ้งมาปรุงแต่งใหม่กับพล็อตเดิม ๆ ที่แปลงเป็นพล็อตซ้ำ ๆ สไตล์หนังญี่ปุ่น ที่มีให้เห็นอย่างนี้กันเกือบทุกปี

ก็เลยทำให้หนังเรื่องนี้ เกือบจะไร้ซึ่งเสน่ห์ใด ๆ ให้ชวน คะนึงหาสักเท่าไหร่ ทั้งโครงสร้างของหนัง มีความแฟนตาซีฟุ้ง ๆ อยู่ค่อนข้างจะเยอะ ที่เป็นส่วนประกอบเหมาะกับ การทำเป็นแอนิเมชั่นมากกว่า ฉบับคนแสดง ก็เลยทำให้บางจุด ของหนังยังรู้สึก เอะใจอยู่บ้าง

ระหว่างทาง ที่ดูหนังเรื่องนี้ไป ก็ยังแอบคิดไม่น้อยว่า เวอร์ชั่นอนิเมะอาจจะเอ็นจอย ได้มากกว่านี้หรือไม่ เนื่องจากว่าเป็นการ์ตูน ที่สร้างแตกโจทย์ จินตนาการได้มากกว่าอยู่แล้ว และก็ยังฉุกคิดขึ้นได้ว่า หรือบางครั้งหนังที่ขึ้นหิ้ง เอาไว้อยู่แล้ว

ก็ไม่เห็นจำเป็นต้อง หยิบเอาลงมาสร้างใหม่ แม้ว่าจะเป็นอีกหนึ่ง เวอร์ชั่นที่ต่างกัน แต่กลับรู้สึกว่าฉบับนี้ ค่อนข้างจะขาดหาย ไปในส่วนของเสน่ห์ ที่น่าอัศจรรย์ใจ แบบที่อนิเมะรวมทั้งมังงะพึงมี

Whisper of the Heart ได้ผู้กำกับมีชื่อ “ยูอิจิโระ ฮิราคาวะ” จาก The Promised Neverland มาช่วยปั้น เรื่องราวให้ แต่งานสร้างของเขา ก็ถือว่าทำออกมา ได้ค่อนข้างจะธรรมดาตามมาตรฐาน ไม่มีอะไรที่หวือหวา แตกต่างไปจากหนังรัก ญี่ปุ่นทั่ว ๆ ไป

งานฉากรวมทั้งซีจีบางจุด ก็ยังค่อนข้างจะดูโดดเด้ง อย่างเห็นชัดว่า เป็นภาพตัดต่อไปสักนิด แม้ว่าโดยผู้สร้าง จะพยายามคุมโทนรวมทั้งบรรยากาศ ด้วยแสงธรรมชาติ ตลอดทั้งเรื่อง ได้ดีก็ตาม

ในส่วนของ บทหนัง Whisper of the Heart คงจะต้องยอมรับสารภาพ ตรงไปตรงมาว่า ค่อนข้างจะน่าผิดหวัง แม้ว่าประเด็นของหนัง จะชัดเจนรวมทั้งยังเก็บเกี่ยว แกนหลักของหนัง ที่อยากเสนอเอาไว้ ชัดเจนเพียงแต่ว่า

เมื่อเอามาร้อยเรียง เรื่องราวในยุคปี 2022 แล้วนั้น มันช่างเป็นพล็อต ที่เชยแสนเชย เป็นหนังที่มุ่งเน้น การต่อสู้รวมทั้งให้กำลังใจ สำหรับการแต่งแต้มเดินความฝัน แต่ว่ารสชาติ ของการปรุงออกมานั้น เป็นเมนูที่ค่อนข้างจะขาดมิติ ด้านอรรถรสอย่าง น่าเสียดาย

ตัวหนังอาจจะ แบ่งได้เป็น 2 พาร์ท

ช่วงการเล่าเรื่องนี้ ได้อย่างชัดเจน ทั้งยังพาร์ทวัยเด็กกับวัยผู้ใหญ่ ที่มีจริตสำหรับการ เล่าเรื่องและก็เน้นจุดสำคัญ ที่ต่างกันอย่างเด่นชัด เพียงแต่เส้นเรื่อง ยังค่อนข้างจะธรรมดาไปสักนิด

ให้ความรู้สึกเสมือน ดูหนังรักญี่ปุ่นสักเมื่อ 10-20 ปีก่อน กับบทหนังที่พยายาม เคารพต้นฉบับ แต่ว่าไม่มีได้มีการ ทรีเมนต์ส่วนประกอบต่าง ๆ ให้ได้มีมิติ ที่ไม่เหมือนกันขึ้นสักเท่าไหร่

ในขณะที่ส่วนประกอบ ในด้านการแสดงนั้น ก็ถือว่า 2 นักแสดงนำ “นานะ เซอิโนะ” กับ “โทริ มัตสึซากะ” ยังคงประคับประคอง หนังทั้งเรื่องเอาไว้ แบบช่วยกัน โดยที่ยังมี 2 นักแสดง เด็ก “รุนะ ยาสึฮาระ” รวมทั้ง “สึบาซะ นากางาวะ” มาช่วยเสริมสีสัน ให้กับพาร์ทแอคติ้งให้ แต่ว่าก็นั่นแหละ…บทและก็การร้อยเรียงเรื่องราว ที่ยังไม่จับใจ สักเท่าไหร่นัก ทำให้การแสดง ของพวกเขาที่ทำได้ดี ตามมาตรฐานแล้ว ก็ยังไม่อาจจะเป็นแรงหนุนนำ ให้หนังบียอนด์ไปสู่จุด ที่เป็นความตรึงตาตรึงใจได้

เอาเป็นว่า โดยภาพรวม แล้วนั้น อาจจะได้ว่า Whisper of the Heart วันไหน วันนั้น หัวใจบรรเลง เป็นหนังเวอร์ชั่นไลฟ์แอคชั่น จากหนังแอนิเมชั่น ในตำนานที่ทำออกมา ได้ค่อนข้างจะน่าผิดหวังไปสักนิด โดยพิจารณา จากการไม่ได้นำไปเปรียบเทียบ กับต้นฉบับเลยสักนิดเดียว ปัญหาหลัก ๆ ของหนังเป็นยังขาดเสน่ห์

สำหรับเพื่อการดำเนินเรื่อง ไปค่อนข้างจะมาก อีกทั้งบทหนังยังไม่มีชั้นเชิง รวมทั้งปรับปรุงให้นำสมัยได้เพียงพอ ก็เลยพลอยทำให้ การแสดงของนักแสดง ที่เล่นออกมาดี

แต่ว่าก็ยังดูไม่เต็มที่ไปด้วย นี่ก็เลยกลายเป็นหนังรีเมค ที่ดูได้แบบปล่อยผ่าน และก็สนใจที่อยากจะ กลับไปหาดูต้นฉบับมากยิ่งกว่า

อบอุ่นพร้อมหน้าพร้อมตากับภาพ คู่รักข้าวใหม่ปลามัน “แพทตี้ อังศุมาลิน สิรภัทรศักดิ์เมธา” กับ “แดน-วรเวช ดานุวงศ์” ไปรับขวัญหลานแฝดหญิง “อัยวา-อัญญา” ทำเอาหลายคน แซวว่าแอบไปฝึกซ้อม เลี้ยงลูกหรือเปล่า พบ แพทตี้ มาร่วมงานแถลงข่าวแนะนำ แอปเปิลอาโอโมริต้อนรับปี 2023 ในชื่องาน “Aomori Apple : Unwrap the Story Behind” ณ Grande Centre Point Ter minal 21

เลยถามถึงที่ ล่าสุดไปเยี่ยมหลานมา?

“ เพิ่งจะได้โอกาสได้ไปเยี่ยมน้องมา ก็น่ารัก น้องประมาณ เดือนหนึ่งแล้วค่ะ ตัวก็เริ่มฟูแล้ว พี่บีม พี่ออย บอกว่าทีแรก เหมือนลิงมากกว่านี้ แต่ว่าแพท ก็ไม่รู้นะว่า เหมือนลิงอย่างไร น้องก็น้ำหนักกำลังพอดีค่ะ ตอนอุ้มน้อง แพทเหงื่อออกเลย คือแพทไม่เป็นเลย เค้ายังเล็กมาก ๆ ค่ะ เรากลัวว่า เราจะทำอะไร ไม่ถูกต้องหรือเปล่า ”

หลายคนแซวว่า แพทตี้ ไปฝึกซ้อมเลี้ยงลูก?

“ ไม่ ก็ไปเยี่ยมค่ะ ไปรับขวัญหลานนิดหนึ่ง พี่แดนเตรียม ทองไปให้น้อง ”

แคปชันที่เราเขียนว่าแอบได้ข้อมูลมา?

“ ก็คือบอกไม่ได้จริง ๆ ค่ะ เป็นความลับที่ ถ้าเกิดคนไม่เคยท้อง จะไม่รู้ (หัวเราะ) ต้องไปถามพี่ออย ก็ไม่ถึงกับเป็นเคล็ดลับ การมีน้องแฝดค่ะ แต่ว่ามันบอก ต่อหน้ากล้องไม่ได้ จริง ๆ (หัวเราะ) ”

ตอนอุ้มมีคิดมั้ย ว่าถึงเวลาของเราแล้ว?

“ ไม่คิดอย่างนั้นเลย รู้สึกว่าน้องไหวมั้ย น้องเริ่มร้องทำยังไงให้หยุด ไม่ได้คิดเรื่องอื่น ”

แดนเห่อหลานขนาดไหน?

“ ไม่รู้เหมือนกัน แต่ว่าเค้าก็ดูคล่องนะ หรือมือเค้าใหญ่ไม่รู้ เค้าจับปุ๊บ น้องก็หลับคามือเลยค่ะ ”

สบายใจได้พี่แดนคล่องขนาดนี้?

“ ก็ดีค่ะ ”

แซวกันเองมั้ยว่า มาฝึกซ้อมเลี้ยง?

“ แต่ว่าไม่ได้คิดถึงเรื่องฝึกซ้อมเลี้ยงเลย เนื่องจากเราแค่ ไปหาหลานมากกว่า และก็ไปเยี่ยมหลาน คนโตด้วยค่ะ ”

ผู้ใหญ่มีพูด อยากอุ้มหลานแล้ว?

“ ผู้ใหญ่ก็มีพูดอยู่ค่ะ (หัวเราะ) พูดเยอะค่ะ อย่างมีคลิปที่เรา กินข้าวรวมกับญาติ ๆ ในยูทูบ ก็จะพูดแบบคอยแล้วนะ ๆ ทุกคนเอ่ยปากแล้วว่า อยากอุ้มหลาน แต่ว่าเราอยาก เที่ยวแป๊บหนึ่ง อยากใช้ชีวิต กันสองคนก่อน พี่บีมก็บอกว่า ยังไม่ต้องรีบ ๆ เนื่องจากถ้าเกิดมีแล้ว มันจะวุ่นประมาณหนึ่งเลย ก็ยังไม่รู้ ยังบอกไม่ได้ กะว่าเที่ยวก่อนสักพักหนึ่ง แต่ว่าถ้าเกิดน้องมา ก็ตามนั้นค่ะ (หัวเราะ) ก็ปล่อยธรรมชาตินะ แต่ว่าก็ต้องแพลนก่อน ขอ แพลนก่อนค่ะ ”

กดดันมั้ยพอผู้ใหญ่เร่ง?

“ ไม่นะ คือจริง ๆ เสมือน ผู้ใหญ่ก็พูดเป็นแบบว่า รออุ้มนะ ถ้าเกิดมีเมื่อใดทุกคน ก็แฮปปี้ยินดี ไม่ได้แบบว่า จะต้องมีเลยนะ ๆ เนื่องจากเค้ารู้ว่า ทุกอย่างมัน ขึ้นอยู่กับความพร้อมด้วย ”

แดนอยากมีหรือยัง?

“ ก็คงจะโอเคแล้วมั้งคะ ต้องถามพี่แดนอีกทีหนึ่ง คือเรื่องนี้อีกสักพัก เราก็น่าจะทราบแหละ ว่าตกลงเรา พร้อมหรือไม่พร้อม ”

“แดน” เคยไปเกทับ “บีม” ว่าถ้าเกิดเค้ามี 4 เราจะต้องมี 5?

“ อุ้ย…ปรึกษาก่อนพี่แดน มันได้เหรอคะ 5 คน ในท้องเดียว โห (หัวเราะ) คือหลายคนบอก เอาไปเลยแฝด 4 แฝด 5 แพทก็บอกอุ้ย ได้เหรอคะ ถ้าเกิดออกมาแบบนั้น ได้จริง ๆ ก็ต้องแจกจ่ายเลยนะ เอาไปทีละคนนะคะ ช่วยเลี้ยงหน่อย (หัวเราะ) แต่ว่าแพทว่า เอาคนแรกให้รอดก่อน ดีกว่าเนอะ เนื่องจากมันคงจะ ไม่ได้ง่ายเท่าไหร่ แต่ว่าก็ไม่ได้ยาก ก็ต้องลองในตอนนั้นอีกทีหนึ่ง ”

สุขภาพในตอนนี้ล่ะ?

“ ก็ยังไม่ได้ตรวจค่ะ แต่ว่ารู้สึกว่าเดี๋ยว ก็อาจต้องไปตรวจหน่อย แต่ว่าในขณะนี้ก็ไม่ได้คิดกังวลอะไรค่ะ เราไม่ต้องการคิดไปก่อน ว่ามันจะดีหรือไม่ดี ค่อยว่ากัน ”

คิดภาพตัวเองมีลูกเป็นยังไง?

“ ก็แปลก ๆ อยู่เลยนะ เนื่องจากทุกวันนี้ ก็ยังอยู่กับคุณแม่ เรารู้สึกว่า เราเป็นน้องเล็กของบ้าน ยังเป็นลูกของแม่ ยังอ้อนเค้าอยู่ พอวันหนึ่งถ้าเกิดจะมีลูก ก็รู้สึกว่ามันอาจ เป็นอีกสเต็ปหนึ่งมั้งคะ ”

คุยกันมั้ยอยากมีลูกผู้หญิงหรือผู้ชาย?

“ ยังไม่ได้ไปถึงขั้นนั้นเลยค่ะ ในตอนนี้ก็ยังอยากไปเที่ยวก่อน คือเราสองคน ไม่ได้เที่ยวมา 2 ปีแล้วด้วย พอโควิด เริ่มดีขึ้นก็อยากไปเที่ยวก่อน ใช้ชีวิตแป๊บหนึ่ง แต่ว่าถ้าเกิดมาก็ไม่ติด แต่ว่ายังไม่รู้เลย (หัวเราะ) ”

แต่งงานแล้วแดนหวานกว่าเดิม?

“ เราก็แบบไป ๆ มา ๆ เจอกันบ้างค่ะ ไม่ได้ต่างคนต่างอยู่เลย พี่แดนเค้าก็หวาน ๆ ของเค้าอยู่แล้ว แต่ว่าก็เค้าหวานมากขึ้นนะ อาจจะกล้าแสดงออกมากขึ้น ปกติถ้าเกิดอยู่ภายนอก เขาจะไม่ค่อยกล้าเท่าไหร่ แต่ว่าในขณะนี้เขากล้าทำมากขึ้น กอดมากขึ้นค่ะ ”

ชอบมั้ยโดนกอด?

“ ชอบ เหมือนเรา ให้ความรักกันและกันค่ะ แพทว่ามันดีนะ ”

โอเครึยังกับ การเรียกแดนว่าสามีหนู?

“ อุ้ย (หัวเราะ) เขินเหมือนกันนะ ก็ยังเขิน ๆ อยู่ค่ะ ไม่คุ้นเท่าไหร่ แต่ว่าหนูยังไม่เคยได้ยินคำนี้ จากพี่แดนนะ ฝากบอกยังไม่เคยเรียกคุณภรรยา อยากได้ยินค่ะ (หัวเราะ) ส่วนพี่แดน ก็เป็นสามีค่ะ มันไม่ชิน มันเขิน ต้องเรียกบ่อย ๆ ถึงจะชินค่ะ ขอเวลาสักปีหนึ่ง (หัวเราะ) แต่ว่าหนูเคยพูดแล้ว อยากฟัง พี่แดนบ้าง พี่แดนขา หนูอยากได้ยินด้วยค่ะ คำว่าคุณภรรยา ”.

หนึ่งในแอนิเมชันของ ค่ายดีสนีย์ ที่นั่งอยู่ในหัวใจ ผู้ชมหลายคน นับตั้งแต่เปิดตัว ในปี 2559 อย่าง “ซูโทเปีย” (Zootopia) หรือ “นครสัตว์มหาสนุก” เรื่องราว ของอาณาจักรสัตว์ที่ดำรงชีวิตอย่างมีอารยะ

ไม่ต่างจากสังคมมนุษย์ มีกำหนดกฎเกณฑ์ แบบคนที่เจริญแล้วปฏิบัติกัน สิงสาราสัตว์ ในแอนิเมชันเรื่องนี้ ถูกกำหนดคาแรกเตอร์ ที่แตกต่างกันไป โดยไม่ทิ้งลักษณะ พฤติกรรมตามธรรมชาติ ของสัตว์เหล่านั้น

หนังมอบความสนุกสำหรับการดำเนินเรื่อง

ออกแบบสัตว์ แต่ละตัวโดดเด่นน่ารัก แต่ทว่าสิ่งที่ซุกซ่อน แฝงอยู่ในนั้น คือเรื่องที่ทรงพลัง ต่อการนำไปขบคิด รวมทั้งขับเคลื่อนชีวิต เช่น การตั้งมั่นในเป้าหมายของชีวิต การเผชิญปัญหารวมทั้งพยายามฝ่าฟันอุปสรรค

เพื่อบรรลุหนทางแห่งความฝัน ผลของความสำเร็จของ “ซูโทเปีย” สามารถเอารางวัลได้หลายเวที รวมทั้งซิวสาขาภาพยนตร์แอนิเมชันยอดเยี่ยม ปี 2560 จากเวทีออสการ์ ไปอย่างเต็มภาคภูมิ

ถ้าหากจะต่อยอด มาขยายเป็น “ซีรีส์” ก็อาจจะไม่ยากเย็น เมื่อมีข่าวว่า “ซูโทเปีย” มาแน่ใน แบบซีรีส์ แต่ว่าไม่ได้ชูตัวละครหลัก แบบในฉบับหนัง แต่ว่าคราวนี้ จะเป็นโอกาส ของสัตว์ชนิดอื่น ๆ ใน “ซูโทเปีย” ได้ออกมา โลดแล่นเสนอมุมมองชีวิต ของพวกเขาบ้าง ในชื่อ “ซูโทเปียพลัส” (Zootopia+)

โดยใช้บริการ 2 ผู้กำกับ คือ โจซี ทรินิแดด รวมทั้ง เทรนต์ คอร์รีย์ ซึ่ง ในตอนที่ซีรีส์เข้าฉายทาง “ดีสนีย์พลัส” คนทำงานไม่ว่า จะเป็น 2 ผู้กำกับ รวมทั้งดารา บอนนี ฮันต์ ที่ให้เสียงกระต่ายสาว บอนนี ฮอบบ์ส, ดอน เลค ผู้ให้เสียง สตู ฮอบบ์ส และก็คนทำดนตรีประกอบ เอลิสซา แซมเซิล รวมทั้ง เคท แอนเดอร์สัน จนโปรดิวเซอร์ นาธาน เคอร์ติส ซึ่ง เคยเป็นผู้ช่วยผู้อำนวยการสร้างในแอนิเมชัน “รายา แอนด์ เดอะ ลาสต์ ดรากอน” (Raya and the Last Dragon) รวมทั้ง “เอนคันโต” (Encanto) ก็มานั่งล้อมวง คุยถึง “ซูโทเปียพลัส” ผ่านซูมเมื่อเร็ว ๆ นี้

เมื่อถูกโยนคำถามมา กลางวงว่าอะไร คือความท้าทาย ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดสำหรับในการผลิตซีรีส์ “ซูโทเปียพลัส” นาธาน เคอร์ติส เปิดเผยว่า “ ส่วนที่ยากที่สุดเป็น ความห่างไกลกันนะ ” ซึ่ง เจ้าตัวหมายความว่าซีรีส์เรื่องนี้ เกิดขึ้นที่โลกของเรา กำลังพบเจอกับโรคระบาดใหญ่

“ เราอยากจะอยู่กับดอนและบอนนี ในสตูดิโอบันทึกเสียงร่วมกัน เราคงชอบที่จะ มีการประชุมงานมากขึ้น กับ เคท, เอลิสซา รวมทั้ง ไมเคิล จิแอค ชิโน คือสตูดิโอของเราก่อตั้งขึ้น จากการอยู่ร่วมกัน เราทำทุกสิ่งทุกอย่างในสตูดิโอ ที่ยอดเยี่ยมได้ในที่เดียว ความท้าทายที่ใหญ่ ที่สุดก็คือการถูกแยกออกจากกัน

ส่วนความท้าทายที่ 2 เป็น ซูโทเปีย เป็นหนังที่ดีมาก เทรนต์ รวมทั้ง โจซี ก็พยายามอย่างมาก ที่จะกล่าวว่าเรา จะทำให้ซีรีส์นี้ ให้สนุกสนานรวมทั้งบันเทิงเท่า ๆ กันได้เช่นไร ผมก็มีความคิดว่า เราได้ทำงานที่ยอดเยี่ยม สำหรับในการนำมันไปสู่ระดับ ที่เราหวังว่า ทุกคนจะเห็นด้วย กับเรานะครับ ”

ส่วน บอนนี ฮันต์ ที่ก็เล่าถึง การทำงานในเรื่องนี้ ว่า “ มันสนุกมากเลยนะ เมื่อได้ร่วมงาน กับคนมีพรสวรรค์อย่าง นาธาน, โจซี รวมทั้งเทรนต์ คือโชคดีมาก ด้วยเหตุว่าคุณจะทราบว่า มีโครงเรื่องที่ดี ความตั้งใจที่ดี แล้วก็คุณภาพของตัวละคร ”

ดอน ก็เปิดเผยต่อว่า “การได้ร่วมงานกับบอนนีอีกรอบ เนื่องจากว่าเรามีสิ่งนี้ เรารู้จักกันมานาน เราเป็นเหมือนเพื่อนรัก ที่สามารถปิดการชี้ขาด ของกันและกันได้ เช่น รู้เพียงว่าเรากำลังเดินไป ตามทางนี้และเรา ไม่ต้องกล่าวอะไร เราแค่ไปตามถนนนั้น สำรวจ แล้วก็สนุกไปกับมัน ”

ตอนที่ เอลิสซา เอ่ยถึงเพลง “บิ๊ก ไทม์” (Big Time)

ที่ร่วมทำงาน กับไมเคิล จิแอคชิโน ว่า “ ตอนเขาโทร.มา แล้วก็พูดว่าได้โอกาส เขียนเพลงประกอบละคร ให้กับตัวละครดยุค วีเซลตัน (ตัววีเซิลเจ้าเล่ห์) เราดีใจจนตัวสั่น ไมเคิลส่งแผ่นเสียง ชุดแรกแล้วก็เมโลดี้ ที่สวย ๆ มาให้เพื่อเริ่มเพลง ซึ่งมันเป็นวันพิเศษ เมื่อได้รับบันทึกเสียงจากไมเคิล พร้อมไอเดียทำนอง ที่เขาเล่นเปียโนแล้วก็บอกว่า ‘มาเปลี่ยนเพลงนี้ เป็นเพลงกันเถอะ คุณคิดยังไง’

เราอยากให้ดยุคเขย่าวงการได้ จึงเลือกแนวเพลง ที่ได้แรงจูงใจจากวงควีน เพลง ‘สตาร์แมน’ ของเดวิด โบวี มันใช้ได้ กับตัวละคร ดยุคจริง ๆ ” ส่วน เคท ก็สนับสนุนว่า “ เทรนต์และโจซี มาหาเราพร้อมด้วยความคิด ที่น่าทึ่งเกี่ยวกับดยุค

ซึ่ง เขาจินตนาการว่าเพลง ‘บิ๊ก ไทม์’ มีความหมายต่อดยุคยังไง การเป็นวีเซิลขี้โกง ตัวเล็ก ๆ เราจึงคิดว่ามันคงตลกดี ที่เริ่มเนื้อเพลงด้วย เรื่องเล็ก ๆ เช่นความฝัน ที่จะเป็นพนักงานขายรถ มือสองของดยุค ”

รวมทั้งก่อนล่ำลา คำถามที่ส่งต่อถึงผู้กำกับทั้ง 2 คน ปิดท้ายก็คือ พลเมืองของซูโทเปีย เป็นหัวใจของซีรีส์ เหตุผลที่นำตัวละคร เหล่านี้มาอยู่ในแต่ละตอน คืออะไร รวมทั้งรู้สึกเช่นไรที่เรื่อง ของพวกเขาช่วยทำให้ภาพ ที่ขยายใหญ่ขึ้นของหนังต้นฉบับ

ทั้งคู่เปิดเผยว่า เคยคุยนานแล้ว รวมทั้งเห็นว่าที่นี่ราวกับนิวยอร์กซิตี้ มีตัวละครจากหลากหลาย ด้านของชีวิต “ อาจมีชาวเมืองท้องถิ่น อย่างสตูและบอนนีหรือดยุค วีเซลตัน นักต้มตุ๋น แต่ว่าพวกเขาจะไม่เปลี่ยนไป ไม่เป็นไร เขาอาศัยอยู่ในโลกนี้ เราก็ยังบอกเล่าเรื่องราว ที่มีเสน่ห์เกี่ยวกับเรื่องนี้ได้ ”

ใครที่คิดถึงสัตว์ ใน “ซูโทเปีย” ก็กดไปดู “ซูโทเปียพลัส” ที่มีทั้งหมด 6 ตอนจบ ได้แล้วทางช่อง ดีสนีย์พลัส.