กว่าจะขึ้นแท่นสาวแซ่บ พิม โดนเคี่ยวเข็ญจนน้ำตาเล็ด พร้อมจับไมค์ร้องเพลง รอจังหวะลงตัว

นอกจากเป็นนางเอกเจ้าบทบาท สาว “พิม พิมประภา ตั้งประภาพร” เปิดเผยความสามารถด้านการร้องเพลง ที่ล่าสุดได้ขึ้นคอนเสิร์ต Kamikaze Party 2022 ร้องเต้นโชว์ความเป็น อดีตเกิร์ลกรุ๊ปสุดฮอต ก็มีเสียงเรียกร้อง อยากให้สาว “พิม” กลับมาทำเพลง เป็นเรื่องราวอีกครั้ง จะเป็นไปได้มั้ย

พิม เผยว่า “จริงๆ ต้องการทำมากค่ะ รอจังหวะที่เหมาะสม เพราะว่าเพลงเพลงนึง ที่ทำออกมามันจะต้องทุ่มเท ด้วยความที่เราเป็นนักร้อง เมื่อก่อนเราอยู่ในพาร์ต ที่ไม่ค่อยมีโอกาสร่วมตัดสินใจในเพลง เราทำตามในสิ่ง ที่เค้าวางเอาไว้ พิมคิดว่าหากพิมจะทำเพลง ทุกๆสิ่งทุกๆอย่าง

ต้องมาจากตัวพิมทั้งหมดเลย ต้องมีเวลาทำงาน หาเพลงเหมาะกับเรา ต้องใช้เวลาพัฒนาผลงานขึ้นมา เดี๋ยวนี้ไม่มีเวลามากพอ ที่จะทำเพราะส่วนใหญ่ช่วงนี้ เราทุ่มเทให้กับละครอยู่”

พิม พิมประภา สาวแซ่บ

ไฟในการทำงานเพลงในช่วงเวลานี้ล่ะ?

“พร้อมค่ะ ยังมีอยู่ค่ะ ชอบร้องเพลงอยู่แล้ว จะได้เห็นตามยูทูบ ติ๊กต่อก โซเชียลของพิม ไม่ได้หายไปไหน พิมยังได้ทำในสิ่งที่เรารัก มันคือชีวิตของเราอยู่แล้ว ทำเนื่องจากชอบ ไม่ได้มองมันเป็นอาชีพ หรือสิ่งที่เราจะต้องฝืนทำ”

พอลงยูทูบคนจะเรียกร้องเมื่อไรจะกลับมาทำเพลง สร้างแรงกดดันให้กับตัวเรามั้ย?

“ไม่กดดันสิ เราดีใจ มีคนรอติดตามอยู่ เราเชื่อแหละ แฟนคลับเราก็จะต้องซัพพอร์ตเราทุกๆ งานที่เราทำ เราจะเล่นละคร ไปคอนเสิร์ต เค้าซัพพอร์ตเราเต็มที่”

อยากทำเพลงเองมั้ย?

“ยังไม่ได้คิดเลย จะเป็นรูปแบบไหน เราเพียงคิดว่าต้องการมีส่วนในการ เลือกโปรดิวซ์แล้วก็ทีมทุกสิ่งเอง เราต้องการทำทุกสิ่งทุกอย่างให้เป็นตัวเรามากที่สุด”

เห็นว่าผู้จัดการเราจะต้องทำการบ้านเคี่ยวเข็ญ ปรับลุคเสื้อผ้าหน้าผมเราจนกระทั่งมาถึงวันนี้?

“ทุกๆวันนี้พิมโดนลดน้อยลงแล้ว หากให้ย้อนอดีตตอนยากๆ เลย ย้อนไป 7-8 ปีที่แล้วแม่ๆ เริ่มมาดูแลพิม พิมก็จะเป็นเด็กกะโปโลคนนึง แต่งตัวไม่เป็น ยังไม่รู้ทำผม แต่งหน้า แต่งตัวยังไงถึงเรียกว่าสวยแล้ว เข้ากับตนเอง ตอนนั้นแม่ๆ เหนื่อยกับพิมมาก ในช่วงพิมอ้วนขึ้น ต้องส่งน้ำหนักไป ให้ดูทุกวัน เท่าไรแล้วเครียดค่ะ พิมรู้สึกว่าหลายท่าน คิดว่าบ้านนี้ทำไมโหดจังเลย แต่พิมมองว่าถ้าเกิดพิมไม่มีแม่ๆ คอยดัน พิมคงจะไม่มีแพสชัน ผลักดันตนเองพอให้มันได้ สิ่งนี้ช่วยทำให้พิมพัฒนาตัวเองได้ไวมาก สิ่งที่เราเห็น เราได้รับการตอบรับ จากคนรอบข้างอย่างเห็นได้ชัด

มีคนชมสวยขึ้นนะ ขณะนี้แต่งตัวเก่งขึ้น สวยขึ้น ดูดีขึ้น มันมาจากแม่ๆ พยายามแต่งตัวเรา พยายามช่วยเสริมเติมแต่ง ให้เรามีการพัฒนาขึ้น พิมเคยเข้าห้องดำมาแล้ว นั่งร้องไห้เลยจำได้ โดนรุมวันนั้นมี 3 คน พี่แอม พี่หวานเจี๊ยบ พี่ยอด เรียกไปห้องดำ พิมจำได้ว่า โดนอบรมประมาณ 2-3 ชม. ตั้งแต่เรื่องลงรูป เรื่องแต่งตัว แต่ก่อนพิมไม่ทำเล็บเลย เป็นผู้หญิงที่ทำเล็บไม่เป็น บางทีถ่ายรูปมาเล็บแย่ๆ เค้าซูมให้ดูเล็บ เป็นอย่างนี้มันน่าเกลียด ก็จริงของเค้า บางครั้งเราออกงานจะต้องมีชุดเอาไว้ แล้วพิมเป็นคนไม่ช็อปปิ้ง ตู้เสื้อผ้ามีแต่ขาวดำ ออกงานไม่ได้เลย ก็ต้องโดนด่า รองเท้าส้นสูงไม่มี เป็นคนใส่ผ้าใบ แม่ๆ ก็มาแล้ว พิมต้องมีรองเท้าสีครีม สีเงิน สีทองอย่างงี้ๆ ต้องไล่ซื้อมา ต้องส่งรายงาน ให้ดูทุกเดือน ซื้อชุด ซื้อรองเท้าแล้วนะ เข็นทุกกระเบียดนิ้วเลย”

โดนเข็นหนักๆ ร้องไห้ขนาดไหน?

“ร้องค่ะ โดนหักเงินก็ประจำ เล็บละพัน หมื่นนึงจ่ายมาแล้ว การลงรูปเมื่อก่อนโดนด่าว่า พิมจะเป็นนักกวีหรือเป็นดารา คือพิมชอบลงภาพต้นไม้ใบหญ้า เขียนแคปชันคำคม คือเป็นเด็กติสต์ๆ เปิดในไอจีไม่รู้เป็นใคร ไม่มีรูปพิมเลย พี่แอมบอกนี่ หากลูกค้าเปิดเข้ามาดู ในไอจีไม่รู้เลยว่าเป็นใคร ไม่มีรูปสวยๆสักรูป เราก็จะต้องถ่ายรูปสวยๆ ส่งไปให้เค้าเช็ก ต้องลงวันละ 3 รูป หากไม่ลงหักรูปละพัน”

พอลุค พิม ระยะหลังๆ มาแนวเซ็กซี่ แฟนเรามีขอเรื่องนี้กับเรามั้ย หรือหวงบ้างมั้ย?

“ไม่มีเลย เค้ามิได้ก้าวก่ายพาร์ตการทำงานของเรา เค้ารู้อยู่แล้วบทนี้ แต่งตัวให้อยู่ในคาแรกเตอร์ อยู่ตอนโปรโมตละคร แล้วบทเรามีความเปรี้ยว ความเซ็กซี่ เราก็จะต้องอยู่ในโหมดตามนั้น บางเรื่องสดใสน่ารักนิดนึง เราก็จะแต่งแบ๊วๆ แล้วแต่ชิ้นงานเลย แล้วก็เค้าเข้ามา ก็รู้อยู่แล้วว่า เราเป็นนักแสดงโดยเหตุนี้จะต้องมีความเข้าใจ ตั้งต้นมาอยู่แล้วด้วย เค้าให้อิสระในการทำงาน ไม่มีคอมเมนต์เรื่องการแต่งตัวอะไรเลย มีการบอกซัพพอร์ตกันค่ะ”

พิม พิมประภา ร้องไห้

“พิม พิมประภา” เล่าทั้งน้ำตา เรียนจบได้เพราะ “เชียร์” ยื่นมือช่วยในวันที่ชีวิตเจอวิกฤต

นับเป็นครั้งแรกที่นางเอกสาว พิม-พิมประภา ตั้งประภาพร ซึ่งกำลังจะมีผลงานละครเรื่อง ดงดอกไม้ ทางช่องวัน 31 ได้ออกมาเปิดใจ ถึงเรื่องราวในอดีต ที่ไม่เคยบอกใครมาก่อน กลางรายการ วันบันเทิงTALK ทางช่องยูทูบ วันบันเทิง ว่าคราวหนึ่งครอบครัว มีปัญหาทางด้านการเงิน กระทั่งขาดเงินจ่ายค่าเทอม ของมหาวิทยาลัย แต่ว่าได้นักแสดงรุ่นพี่ เชียร์-ทิฆัมพร ฤทธิ์ธาอภินันท์ ยื่นมือเข้าช่วย ให้ยืมเงินเพื่อจ่ายค่าเทอม

“พิมมีเป้าหมายอย่างหนึ่งเลยว่า ชีวิตนี้พิมจะไม่เป็นหนี้อีก แล้วถ้าถามว่าเพราะอะไร พิมพ์ถึงทำงานขนาดนี้ หรือพยายามขนาดนี้ คือ มันมีเหตุการณ์หนึ่ง อันนี้จะเป็นเรื่องเงินค่ะ มันเป็นช่วงที่จะต้องจ่ายค่าเทอม แล้วก็มันก็จะมีบิล ที่จะต้องไปจ่าย พิมจำภาพตนเองได้ว่า พิมยืนร้องไห้เนื่องจากว่า พิมขาดเงินไปจ่ายค่าเทอม พิมจำได้ว่าตนเอง เหลือเงินในบัญชีแบบหลักร้อย”

“ช่วงนั้นต้องเล่าว่า มันเป็นตอนที่เราจะต้องใช้หนี้ ซึ่งทั้งหมด ที่พิมมีก็คือต้องไปใช้ตรงนั้น เพื่อช่วยครอบครัว ช่วยทั้งหมดที่เรามี จำได้เลย แบบเอาไงดีไม่มีเงินจ่ายค่าเทอม เราอยู่จุดนี้ได้อย่างไร นี่คือการศึกษา และก็เราทราบมาตลอดว่า เราไม่เคยขาด เนื่องจากพ่อแม่เรา ทำงานหนักมาก เพื่อให้เราได้การศึกษาที่ดี”

ผ่านวันนั้นมาได้อย่างไร ?

“พิมจำได้ว่าพี่เชียร์ให้พิมพ์ยืมเงิน (น้ำตาคลอ) พี่เชียร์ ฑิฆัมพร ค่ะ พิมเล่นละครกับเขา พี่เขาเป็นผู้ที่มีพระคุณกับพิมคนหนึ่ง วันนั้นเป็นช่วง ที่เราเล่นละครร่วมกัน แล้วมันเป็นช่วงที่หนักสำหรับพิม ซึ่งพี่เขาเป็นพี่ ที่รับรู้เนื่องจากว่า เราอยู่กองถ่ายด้วยกัน แต่มันก็เป็นเงินเล็กน้อยนะคะ ไม่ได้เป็นหลักที่เยอะ แต่ว่ามันก็ทำให้เรา ได้เรียนจบ ให้เรามีใช้ ซึ่งพอพิมมีเงิน พิมก็คืนทันที”